ปาโบล เอสโคบาร์

หากพูดถึงพ่อค้าโคเคนที่โด่งดังที่สุดในโลก คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ ‘ปาโบล เอสโกบาร์’ หรือชื่อเต็ม ๆ คือ ปาโบล เอมิลิโอ เอสโกบาร์ กาบิเรีย โดยปาโบลมีพื้นเพเป็นคนโคลอมเบีย และเริ่มก่ออาชญากรรมตั้งแต่เด็ก ๆ เริ่มต้นจากการขโมยหลุมศพไปขายต่อ ขโมยรถยนต์ เป็นต้น จนได้มาเริ่มเส้นทางการเป็นพ่อค้าโคเคนและมีเครือข่ายที่แข็งแรงจนสามารถขนส่งโคเคนได้มากถึง 50 ตัน/วัน ซึ่งธุรกิจมืดดังกล่าวทำให้เอสโคบาร์ร่ำรวยมหาศาล ถึงขนาดที่ในช่วงหนึ่งเขาจำเป็นต้องเสียเงินประมาณ 10,000/สัปดาห์ เพื่อใช้เป็นค่ายางรัดเงินที่ได้มาจากการขายยาเสพติด

‘ดีลลับระหว่างเอสโคบาร์กับรัฐบาลโคลอมเบีย’

จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ตรงที่ ‘เอสโคบาร์’ มีความฝันอยากจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และในช่วงที่ ‘ดีโรนัลด์ เรแกน’ (Ronald Reagan) ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีและประกาศสงครามกับยาเสพติด แต่เอสโคบาร์ก็ไม่ได้มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด เพราะตนเองมั่นใจว่ามีเครือข่ายใต้ดินที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจที่พร้อมจะรับสินบน นักการเมืองที่พร้อมจะฉ้อโกง ทำให้การต่อรองและปราบเอสโคบาร์ไม่ใช่เรื่องง่าย โศกนาฎกรรมที่รุนแรงที่สุดคือการสั่งให้ระเบิดเครื่องบินเพื่อเหตุผลทางธุรกิจ และเกิดความผิดพลาดจนทำให้ประชาชนบริสุทธิ์เสียชีวิตเป็นจำนวนหลายราย รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ จึงได้เกิด ‘ดีลลับ’ กับเอสโคบาร์ขึ้นในปี 1991

ดีลลับที่ว่าเกิดจากการที่ ‘เอสโคบาร์’ ขี้เกียจหลบหนีจากการจับกุม และรัฐบาลโคลอมเบียได้ยื่นเพื่อขอเจรจาต่อรองกับเอสโคบาร์ว่าขอให้ติดสักคุก 5 ปีได้ไหมเพื่อลบล้างความผิดต่าง ๆ ที่เคยก่อคดีไว้ แต่อยู่ใต้เงื่อนไขที่ว่าสามารถติดอยู่ที่คุกส่วนตัวได้เลยนะ ซึ่งคุกที่ว่ามีชื่อว่า ‘ลา กาเตดรัล’

‘ลา กาเตดรัล’ คือ คุกหรูอยู่สบายสร้างอยู่ใกล้กับบ้านเกิดของเอสโคบาร์ ภายในคุกมีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือตำรวจต้องเป็นคนที่ได้รับอนุญาตจากเอสโคบาร์เท่านั้น ความหรูหราของคุกนี้ทำให้คนอื่น ๆ เรียกคุกนี้ว่า โรงแรมเอสโคบาร์ หรือคลับเมเดยิน เป็นต้น ภายในคุกมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัว กล้องโทรทัศน์ขนาดใหญ่เพื่อใช้สำหรับดูครอบครัว ลานจอดเครื่องบิน บาร์เหล้า ยาเสพติด รวมถึงสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานเพราะเอสโคบาร์เป็นคนที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล ถึงขนาด ‘ดิโอโก มาราโดนา’ นักฟุตบอลและอดีตโค้ชอาร์เจนตินาเคยถูกรับเชิญให้ไปเตะบอลในคุกส่วนตัวของ ‘เอสโคบาร์’ ด้วยค่าจ้างจำนวนมหาศาล และยาเสพติดที่มีให้ใช้ได้ไม่จำกัด รวมถึงมีญาติพี่น้องของเอสโคบาร์เข้าไปเยี่ยมได้ถึง 300 กว่าคน

อย่างไรก็ดี เอาเข้าจริง ๆ แล้ว แม้ว่าเอสโคบาร์จะได้ติดในคุกหรูอยู่สบายที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย แต่เอสโคบาร์ก็ยอมติดจริงอยู่เพียง 13 เดือนเท่านั้น เพราะมีแรงกดดันจากนานาชาติต้องการรัฐบาลโคลอมเบียส่งตัวเอสโคบาร์ให้รัฐบาลสหรัฐฯ แต่เอสโคบาร์หลบหนีและถูกยิงเสียชีวิต ถือเป็นการปิดตำนานพ่อค้าโคเคนที่โด่งดังที่สุดในโลกด้วยวัยเพียง 44 ปีเท่านั้น

‘การดีลลับเพื่อต่อรองอำนาจทางผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นสิ่งที่มีมาตลอด’

จากกรณีของเอสโคบาร์ที่ยกมาจะพอเห็นภาพได้ว่า ‘ดีลลับเพื่อต่อรองอำนาจเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นสิ่งที่มีมาตลอด’ และไม่ว่าสิ่งนั้นจะทำให้กระบวนการทางกฏหมายบิดเบี้ยวขนาดไหน หรือจะเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกขัดแย้งต่อความรู้สึกของประชาชนในประเทศแค่ไหนก็ตาม แต่หากในแง่ของการต่อรองผลประโยชน์ลงตัวแล้วไม่ว่าอะไร ๆ ก็สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้ และสิ่งเหล่านี้มีให้เราเห็นมาตลอดตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน และสามารถชมคุกส่วนตัวของเอสโคบาร์ได้ที่ https://youtu.be/UKfH3rEZip4

ปาโบล เอสโคบาร์

อ้างอิง