วันนี้ (7 สิงหาคม 2567) ช่วงเวลาประมาณ 19:00 น. – 22:00 น. ที่ผ่านมาได้มีจัดกิจกรรมเวทีปราศรัย บริเวณลานกิจกรรมพรรคอนาคตใหม่ เพื่อเปิดพื้นที่ให้เหล่าบรรดาหัวหน้าพรรคและส.ส. จากพรรคก้าวไกลขึ้นปราศรัยให้เหล่าบรรดาแฟนคลับก้าวไกลได้ฟังกัน หลังจากที่เมื่อช่วงประมาณ 16:00 น. ทุกคนรู้ข่าวร้ายพร้อม ๆ กันว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคก้าวไกลพร้อมตัดสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรค 10 ปี โดยในกิจกรรมปราศรัยได้มีหัวหน้าพรรคและส.ส.หลายท่านขึ้นปราศรัย อาทิ รักชนก ศรีนอก, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, ชัยธวัช ตุลาธน, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นต้น
ทาง ‘ชัยธวัช’ ได้ขึ้นปราศรัยในลุคสบาย ๆ ว่า วันนี้ศาลวินิจฉัยบอกว่าพรรคก้าวไกลล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อนบ่อนทำลายพระมหากษัตริย์ แต่คนที่ทำรัฐประหารและเอารูปในหลวงมาวางไว้ข้างหลัง ใครเซาะกร่อนบ่อนทำลาย? ทั้งนี้ตัวผมเองภูมิใจที่ได้ทำงานกับเพื่อนอนาคตใหม่-ก้าวไกล ไม่เคยเสียใจ ไม่เคยเสียดาย ไม่เคยคิดว่าเราทำอะไรผิด เขายุบก้าวไกลได้แต่เขายุบก้าวไกลในหัวใจของพวกเราไม่ได้ ยุบความหวังของเราไม่ได้ ยุบความฝันที่อยากจะเห็นอนาคตที่ดีกว่านี้ไม่ได้
ต่อมา ‘พิธา’ ก็ได้ขึ้นปราศรัยว่า บอกเขาไปว่าเขาทำอะไรกับพวกเราไม่ได้และเราจะไม่ชินชากับการเมืองแบบนี้ สั้น ๆ ง่าย ๆ ตายสิบเกิดแสน เป็นเกียรติสูงสุดของผมที่ได้มีโอกาสรับใช้ประชาชนรับใช้ประเทศชาติ จำวันที่เราชนะเลือกตั้งกันได้ไหม จำวันที่เราชนะในเกมที่ถูกออกแบบมาให้เราแพ้ ไม่ใช่เพราะท่านเชื่อในตัวผม แต่ท่านเชื่อในตัวของท่านเองว่าท่านมีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ จงจำความรู้สึกนั้นไว้ ต่อให้ไม่มีผมอยู่ในสภา ไม่มีผมอยู่ในการเมืองไทย แต่ถ้าผมยังอยู่ในใจของพี่น้องประชาชน และพี่น้องประชาชนยังเชื่อมั่นในหลังของตัวเอง ประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแน่นอน
พวกเขาจะทำอะไรเราไม่ได้ เขาอยากได้อะไร เราจะไม่ให้พวกเขาเด็ดขาด เขายุบพรรค ยุบโลโก้ ยุบสี ไม่เป็นไร แต่ถ้ายุบความหวังของเราได้สำเร็จเมื่อไหร่ เท่ากับเรายกประเทศไทยใส่พานเงินมอบให้เขาทันที เราจะยอมไหมครับ? เพราะฉะนั้นวันนี้เศร้า โกรธ แค้น เสียใจได้แค่วันเดียว พรุ่งนี้เราเดินต่อไปเพื่อรัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศจะเคยมีมา ในขณะเดียวกันเรื่องสำคัญที่สุดเราจะชินชากับเรื่องแบบนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ ในการปราศรัยของพิธาในบางช่วงบางตอนมีน้ำตาไหลออกมา พิธาจึงได้กล่าวว่า พี่น้องเห็นผมยืนอยู่ตรงนี้มีน้ำตาของความดีใจเล็กน้อย ไม่มีน้ำตาแห่งความเสียใจแม้แต่นิดเดียวเพราะผมทำเต็มที่ทุก ๆ อย่าง ทุกอย่างที่ผมมี ผมมอบให้พี่น้องประชาชนไปหมดแล้ว และในช่วงท้ายการปราศรัย พิธาปาดน้ำตาตัวเองพร้อมพูดติดตลกว่า “สงสัยพรุ่งนี้ไปหาพี่ยุทธคงต้องร้องเพลง แล้วฉันจะยิ้มทั้งน้ำตาให้เธอเข้าใจว่าทนไหวของออโตบาห์นแล้วมั้ง”





