สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอ ที่ 14

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส สิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา สำนักวาติกันแห่งกรุงโรมได้คัดเลือกและแต่งตั้ง พระคาร์ดินัล โรเบิร์ต ฟรานซิส เพรวอสต์ ให้เป็น สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอ ที่ 14 ผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิกองค์ที่ 267 อย่างเป็นทางการ นับเป็นพระสันตะปาปาชาวอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยวิสัยทัศน์ในการทำงานที่คล้ายกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส และความโอบอ้อมอารีในการช่วยเหลือผู้ยากไร้ แรงงาน และกลุ่มคนอพยพ ทำให้สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอ ที่ 14 เป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่น่าสนใจ และได้รับความไว้วางใจจากศาสนจักรให้สืบทอดพันธกิจต่อ 

พระคาร์ดินัล โรเบิร์ต ฟรานซิส เพรวอสต์ หรือพระนามเดิม โรเบิร์ต เพรวอสต์ เกิดและเติบโตที่ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 1955 มีเชื้อสายสเปนและอิตาลี เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเซมินารีระดับต้นของคณะออกัสติเนียน (Augustinian Fathers) ก่อนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีในสาขาคณิตศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยวิลลาโนวา ในรัฐเพนซิลเวเนีย และในปีเดียวกันนั้นเองพระองค์ทรงเข้ารับการอบรมนักบวชของคณะนักบุญออกัสติน ก่อนตัดสินใจกล่าวคำปฏิญาณตนรับใช้พระเจ้าตลอดชีวิตและอุปสมบทเป็นบาทหลวง จากนั้นพระองค์ได้เข้ารับการศึกษาระดับปริญญาโทด้านเทววิทยา ที่สถาบันเทววิทยาคาทอลิก

ต่อมาหลวงพ่อโรเบิร์ต เพรวอสต์ ถูกส่งไปร่ำเรียนในระดับปริญญาเอกด้านกฎหมายศาสนจักร ที่มหาวิทยาลัยสันตะปาปาแห่งเซนต์โธมัส อควีนาส-แองเจลิคัม และได้ดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์สอนกฎหมายศาสนจักร ในเซมินารี เมืองทรูฮิลโย ประเทศเปรู ซึ่งพระองค์ทรงใช้เวลาทำงานอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายปี ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นอธิการเจ้าคณะแขวง (Provincial Prior) และเลื่อนขั้นเป็นอธิการเจ้าคณะใหญ่ของคณะออกัสติเนียนในเวลาต่อมา ถือเป็นตำแหน่งสูงสุดในคณะนักบวชในเวลานั้น จนกระทั่งในปี 2014 พระองค์ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บริหารอัครสังฆมณฑลชิคลาโย ในประเทศเปรู และได้รับการแต่งตั้งเป็นมุขนายกในปีถัดมา 

การคร่ำหวอดในแวดวงศาสนจักรที่เปรูมาเนิ่นนานทำให้พระองค์ได้รับสัญชาติเปรู ซึ่งบ่งบอกถึงความทุ่มเทในการผลักดันและขับเคลื่อนคริสตจักรในเปรู โดยพระองค์ทรงมีวิสัยทัศน์และโครงการในการช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้อพยพ รวมถึงสิทธิแรงงาน ด้วยความเมตตาและเปิดกว้าง ขณะเดียวกันก็ยึดมั่นในหลักการศาสนาแบบดั้งเดิม ทำให้พระองค์ทรงได้รับความศรัทธาจากผู้คนในวงกว้าง จนพระสันตะปาปาฟรานซิสรู้สึกเห็นชอบกับการมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้ในปี 2023 พระองค์ทรงถูกแต่งตั้งเป็นสมณมนตรีแห่งสมณกระทรวงเพื่อบิชอป (Prefect of the Dicastery for Bishops) และถูกคัดเลือกแต่งตั้งให้เป็นพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ตามที่พวกเราทราบกัน

อย่างไรก็ตามการเดินทางไปหลายประเทศทั่วโลก การทำงานอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ และความซื่อสัตย์ต่อศรัทธาของตนเองมาตลอดหลายปี ทำให้พระสันตะปาปาเลโอที่ 14 น่าจะมีวิสัยทัศน์ในการทำงานและทะนุบำรุงศาสนาในแบบที่ควบคู่ไปกับกาลเวลาและเข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้น ซึ่งหวังว่าการดำรงตำแหน่งของโป๊ปคนใหม่จะนำพาความศรัทธาของศาสนจักรให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง

สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอ ที่ 14

ที่มา

AUTHOR

ไม่ชอบคนข้างล่าง