“วันนี้เธอมีความสุขไหม”
ในวันที่ภาระงานถาโถมเข้ามาเหมือนพายุทราย แม้จะผ่านไปแล้วแต่ยังคงทิ้งร่องรอยและเศษซากของมันเอาไว้บนร่างกาย ในวันที่ปัญหาสะสมเหมือนคราบฝังลึกบนผนัง ถึงแม้จะทำความสะอาดดีเพียงใด แต่ยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้ได้เห็น ในวันที่คนรอบข้างต่างอันตรธานหายไปทีละคน แม้ทำใจให้โฟกัสสิ่งอื่น แต่ความเสียใจยังคงเกาะกุมไม่หายไปไหน เพราะพวกเราล้วนมี ‘บาดแผล’ เป็นเรื่องไม่ปกติที่แสนธรรมดาสามัญ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ตัวชี้วัดเพียงอย่างเดียวว่าคุณ ‘ไม่มีความสุข’ ดังนั้นลองรีเช็กตัวเองผ่านวิธีการง่าย ๆ เพื่อดูว่าคุณยังเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ชอบอยู่หรือไม่
คุณเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตตัวเองตอนนี้หรือไม่
ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าตรู่ เบียดเสียดกับผู้คนบนขนส่งสาธารณะ ดื่มกาแฟจากเมล็ดในแบบที่ตนเองชอบ สะสางงานที่ค้างคาขณะที่ได้รับความกดดันจากหัวหน้า ได้กินข้าวอร่อย ๆ กับเพื่อนร่วมงานที่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังเผชิญเป็นอย่างดี กลับบ้านพร้อมเรื่องเครียด แต่ได้ดูซีรีส์ที่ชอบ พร้อมกับกินขนมรสโปรดในวัยเด็ก ชีวิตของเรานั้นสลับซับซ้อน แต่ละวันผ่านพ้นไปด้วยการปะปนไปด้วยเหตุการณ์และอารมณ์ที่หลากหลาย ถึงแม้จะกระท่อนกระแท่นบ้าง แต่หากชั่วโมงท้าย ๆ ของวันคุณยังกลับมาพร้อมกับความรู้สึกที่ไม่ได้แย่ นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะอนุมานได้ว่าคุณกำลังมีความสุข
คุณรับมือกับความผิดหวังได้หรือไม่
การผิดหวัง พลาดฝัน ล้มเหลว เป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้ในระดับวินาที แน่นอนว่าความเสียใจคือความรู้สึกแรกที่เราจะสัมผัสได้ และมันก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน แต่หากคุณรู้จักวิธีการรับมือกับมันได้ นั่นจะทำให้คุณพร้อมกลับมาสู้ต่อ คาดหวังต่อ ฝันต่อไปได้ โดยที่ไม่จมอยู่กับความรู้สึกเสียใจเป็นเวลานาน ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณพบเจอปัญหามากน้อยขนาดไหน แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณจัดการกับความพ่ายแพ้ได้มากขนาดไหนเท่านั้นเอง
คุณยังเชื่อมั่นในตนเองอยู่ไหม
ท่ามกลางผู้คนหลากหลายที่มีความคิดมากมาย คุณหลงลืมตัวตนของตนเองไปแล้วหรือยัง ลองถามตัวเองบ่อย ๆ ว่าเรายังเป็นเราคนเดิมหรือไม่ คนที่เชื่อในสิ่งที่เคยเชื่อ คนที่ศรัทธาในสิ่งที่ตัวเองปรารถนา ทุกวันนี้เรายังต่อสู้เพื่อความฝันเดิมอยู่หรือไม่ ถึงแม้ ‘สังคม’ จะบั่นทอนให้เราแหว่งวิ่น ถึงแม้ ‘ผู้คน’ จะบีบรัดให้เราบิดเบี้ยว แต่อย่าหลงลืมว่าเราเป็นใคร และกำลังต่อสู้เพื่ออะไรอยู่ อย่าทอดทิ้งความฝันเพียงเพราะคนอื่นบอกว่าสิ่งที่คุณคิดหรือกำลังทำอยู่นั้นไร้สาระ เพราะคนที่รู้จักคุณดีที่สุดคือตัวคุณเอง ดังนั้นไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งหรือใครมาชี้หน้าด่าทอก็อย่าได้สูญเสียความเชื่อมั่นในตนเอง
เวลาเจอปัญหาที่แก้เองไม่ได้ คุณกล้าที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นหรือไม่
ดังที่กล่าวไปว่าชีวิตเราล้วนเจอปัญหาในแบบของตัวเองกันทุกคน และบางครั้งปัญหานั้นก็เกินกว่าที่เราจะผ่านมันไปได้ด้วยตัวคนเดียว การหาใครสักคนมาช่วยคิดและให้คำแนะนำอาจดีกว่า สิ่งที่แตกต่างระหว่างคนที่มีความสุขและไม่มีความสุข คือคนที่มีความสุขกล้าที่จะยอมรับกับความผิดพลาดและพยายามหาทางออกทุกทาง ไม่ว่าจะเกิดจากการคิดเอาเองหรือปรึกษาคนอื่น เพราะเชื่อเถอะว่าท่ามกลางคนคุ้นเคยหรือแปลกหน้า มีคนพร้อมที่จะช่วยเหลือคุณเสมอไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
คุณสามารถแยกงานและชีวิตส่วนตัวออกจากกันได้หรือไม่
บางครั้งวิธีการได้มาซึ่งความสุขก็ไม่ได้มีวิธีการที่ซับซ้อนอะไรมาก หากคุณแยก ‘การใช้ชีวิต’ ออกจาก ‘การทำงาน’ ได้อย่างชัดเจน คุณควรแบ่งเวลางานและเวลาว่าง ไม่เอามาปะปนกันมากเกินไป แน่นอนว่าชีวิตและสังคมของมนุษย์ขับเคลื่อนด้วยเงินที่ได้มาจากการทำงาน แต่อย่า “อินเกิน” จนทำให้เราสูญเสียเวลาการใช้ชีวิต เพราะเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราได้ใช้ชีวิตเต็มที่หรือไม่ ทุกส่วนล้วนมีความสำคัญของมันที่ประกอบสร้างขึ้นมาเป็นวิถีชีวิตเรา แบ่งแยกมันออกจากกันอย่างชัดเจน ทำงานอย่างตั้งใจ ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำควบคู่ไปกับสิ่งที่อยากทำ แล้วคุณจะค้นพบความสุขไม่มากก็น้อย
อย่างไรก็ตามแม้กระทั่งความสุขก็เป็นปัจเจก การได้มาซึ่งมวลสารแห่งความสุขของพวกเรานั้นต่างกัน ลองใช้เวลาค้นหามันอย่างค่อยเป็นค่อยไป แล้วรักษาระดับความสุขของคุณไว้ให้คงที่มากที่สุด เพราะบนโลกใบนี้ไม่มีใครรักคุณมากได้เท่าตัวคุณเองแล้วล่ะ
อ้างอิง : The List