ใจความสำคัญของเทศกาลที่ควรให้พื้นที่กับภาพยนตร์กลิ่นใหม่จากหลากหลายเชื้อชาติจะเลือนหายไปหรือไม่ หากแฟชั่นพรมแดงถูกให้ความสนใจมากกว่าคุณค่าภาพยนตร์ที่ซ่อนอยู่ภายในเทศกาล หรือความศักดิ์ศิทธิ์ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์กำลังจะลดลงไป
จากเทศกาลหนังนอกกระแส สู่จุดศูนย์รวมคนทำหนังจากทั่วโลก
แต่เดิมเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์มักจะถูกยกย่องให้เป็นเทศกาลที่นักทำหนังจากทั่วโลกจะได้นำผลงานของตัวเองมานำเสนอ ซึ่งเทศกาลเมืองคานส์เป็นจุดเริ่มต้นการรวมเอาภาพยนตร์ที่มักจะไม่ได้อยู่ในกระแสหลักของตลาดทั่วไปในประเทศต่าง ๆ แม้ภาพยนตร์หลายเรื่องก็คละเคล้าปะปนกันไปทั้งภาพยนตร์ทุนสูง นักแสดงระดับตำนาน ไปจนถึงภาพยนตร์จากค่ายหนังคลื่นลูกใหม่ แต่คานส์จะให้พื้นที่เสมอ จนสร้างชื่อเสียงให้กับคนทำหนังหน้าใหม่ไอเดียดีได้แจ้งเกิดไปมากมาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์สร้างชื่อมากขึ้น นักทำหนังจากทั่วโลกจึงเริ่มส่งภาพยนตร์ของตัวเองมาร่วมฉายในเทศกาลมากมาย และรวมไปถึงเหล่าคนทำหนังจากอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ อย่าง Hollywood ที่อยากจะลองท้าทายฝีมือด้วยรสชาติที่แตกต่าง ก็เริ่มส่งภาพยนตร์มาร่วมฉายในเทศกาลนี้ด้วยเช่นกัน นั่นหมายถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ สื่อ รวมถึงคนเบื้องหน้ามากมายที่มาร่วมงานเทศกาลในฐานะผู้ส่งภาพยนตร์เข้าร่วมเทศกาลนั่นเอง ส่งผลให้ตัวเทศกาลได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลก ไม่ใช่แค่แวดวงที่เฉพาะตัวอีกต่อไป
รู้จัก “Eye Ball” ศึกชิงการถูกมองเห็นของคนทำหนัง
สิ่งที่ชิงพื้นที่กันในเทศกาลภาพยนตร์ทุกที่คือสิ่งที่เรียกว่า “Eye Ball” หรือ “การถูกมองเห็นและได้รับชม” เนื่องจากในเทศกาลภาพยนตร์ทุกที่มีภาพยนตร์ สื่อ และบุคคลในอุตสาหกรรมมาร่วมมากมาย แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ได้ฉายให้ทุกคนได้รับชม ดังนั้น จังหวะและโอกาสที่หนังสักเรื่องจะสามารถเรียกให้คน “เลือก” เข้าชมหนังของตัวเองได้ก็ถือว่าได้โอกาสที่ดี บางเทศกาลไม่ได้จัดในเมืองเมืองเดียวหรือโซนเดียว เช่น เทศกาลหนังนานาชาติที่บาหลี ที่จัดหนังฉายไปทั่วเกาะเลยทีเดียว
ยิ่งยุคปัจจุบันการเข้าสู่โลก Social Media และเป็น Digital Information อย่างเต็มรูปแบบ การช่วงชิง Eye Ball จากคนในอุตสาหกรรมเพื่อให้ได้พื้นที่สื่อแบบฉับไวจึงเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นมาก นับตั้งแต่การนำเสนอโปรเจ็กต์ให้น่าสนใจ การตั้งชื่อเรื่อง ชื่อผู้กำกับ ผู้ร่วมทุนที่สร้างหนัง หรือแม้แต่นักแสดงที่อาจจะเลือกคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว หรืออาจจะเลือกจากคนที่เสน่ห์มากพอที่จะดึงดูด Eye Ball ต่าง ๆ ให้มาจับจ้องภาพยนตร์สักเรื่อง ดังนั้นการร่วม “พรมแดง” ในช่วงเปิดเทศกาลตลอดหลายวันจึงเป็นสิ่งที่ถูกให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้น
การให้พื้นที่แบรนด์ เพื่อสนับสนุนเทศกาลหนังทางเลือก
เมื่อเทศกาลเมืองคานส์เติบโตขึ้น การได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ต่าง ๆ ย่อมมากขึ้นตามเพื่อรองรับ Eye Ball มหาศาลจากทั่วโลก ที่มาตามหา “วัตถุดิบในแวดวงหนัง” ไปจากเทศกาล ความเฉพาะตัวในการเป็นเทศกาล “หนังนอกกระแส” ก็ถูกทลายลงด้วยการเข้ามาของแบรนด์ใหญ่ ๆ รวมถึงเหล่าคนดังที่พร้อมจะจ่ายเพื่อเข้าร่วมงาน ทำให้การเดินพรมแดงของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนทำหนังด้วยกันเอง แต่ยังพ่วงไปด้วยเหล่าพรีเซนเตอร์จากแบรนด์ต่าง ๆ อินฟลู คนดังจากหลากหลายแวดวง มาร่วมแย่งชิง “Eye Ball” จากสื่อจากทั่วโลกที่ร่วมกันจับจ้องวินาทีพรมแดงในงานเทศกาล
และด้วยการแย่งชิงความ “โดดเด่น” บนพรมแดงนี้เองที่ทำให้เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ที่เคยเป็นสถานที่เฉพาะตัว เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น แม้จะตามมาด้วยการวิพากษ์วิจารณ์การแต่งตัวของเหล่าคนดังอย่างแพร่หลายและมองเป็นการเดินประชันแฟชั่น มากกว่ากลับไปให้คุณค่าที่แท้จริงของงานภาพยนตร์ที่ฉายอยู่ในเทศกาลก็ตามที
หากจะเปรียบเทียบง่าย ๆ “พรมแดง” ในเทศกาลภาพยนตร์ปัจจุบันก็มีลักษณะที่คล้ายหน้า Feed บนโซเชียลมีเดีย ที่ผู้ใช้งานต่างไถหน้าจอเพื่อเสพคนที่เดินเข้างาน ซึ่งตั้งแต่ผู้จัดงาน คนส่งหนังเข้าชิงและโฆษณามาคั่นประปราย ความถี่ของโฆษณาที่เข้ามาคั่น ก็จะแปรผันตรงกับความต้องการสนับสนุนของตัวเทศกาลเอง
อย่างไรก็ตาม คนทำหนังหลายคนได้ให้ความเห็นว่า พื้นที่ “สื่อกระแสโฆษณา” ไม่ควรรุกล้ำเข้าไปในโรงภาพยนตร์ที่ควรให้พื้นที่การเสพศิลปะภาพยนตร์อย่างแยบคาย เพราะหลาย ๆ เรื่องเป็นหนังทุนต่ำจากสตูดิโอเล็ก ๆ ที่ทุ่มเทหมดหน้าตักจากประเทศของตัวเองมาเพื่อขอพื้นที่ฉายเล็ก ๆ เพียงแค่หนึ่งรอบ แต่กลับโดนแบรนด์ต่าง ๆ มาแย่งชิง “Eye Ball” ไปจากตารางของเทศกาลจนมากเกินไป ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์กำลังลดลงไปจากปัจจัยเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
