ไรเนอร์ บราวน์, ReinerBraun, Attack on Titan

เมื่อเราพูดถึงการ์ตูนเชิงการเมืองอย่าง “Attack on Titan” ตัวละครที่มักจะนึกขึ้นได้แรกๆ คงหนีไม่พ้นเหล่าตัวเอกของเรื่องอย่าง เอเรน เยเกอร์, มิคาสะ แอคเคอร์แมน และ อาร์มิน

เด็ก 3 คนที่ต้องมาพบชะตากรรมอันเลวร้ายจากสิ่งมีชีวิตร่างมนุษย์ขาดสติสัมปชัญญะอย่าง “ไททัน” ทะลายกำแพงบุกเมืองของพวกเขานำไปสู่โศกนาฏกรรมอันแสนสะเทือนใจ จนกลายเป็นแรงผลักดันให้เหล่าตัวเอกต้องมาต่อกรเพื่อชำระแค้นล้างเหล่าไททันให้สิ้นซาก

แม้เราจะรู้ถึงที่มาทั้งหมดของสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามาจากใคร? และเป็นเพราะอะไรแล้ว? หนึ่งในตัวละครที่มีความสำคัญต่อเรื่องนี้ ผู้ที่เป็นแรงจูงใจทำให้เหล่าไททันเข้ามารุกรานในเมืองจนส่งผลไปยังเนื้อหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือตัวละคร อย่าง “ไรเนอร์ บราวน์”

ไรเนอร์ บราวน์ ทหารหนุ่มผู้ทำภารกิจเพื่อชิงพลังบางอย่างให้สำเร็จ โดยมีแรงจูงใจที่อยากให้ครอบครัวและคนในชาติภาคภูมิใจต่อความกล้าหาญของเขา แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งเขาพยายามมากเท่าไหร่ มันยิ่งตอกย้ำความเป็นจริงต่าง ๆ ที่เกิดผ่านตัวละครนี้ จนเริ่มเกิดความสับสนภายในใจจากสิ่งที่เขาได้พบเจอในภารกิจ

กลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่สะท้อนให้เห็นถึง “ความผิดพลาดของมนุษย์” แม้ว่าความเป็นจริงของเรื่องนี้จะถูกกำหนดมาแล้วด้วยปัจจัยบางอย่าง หากได้มาสัมผัสถึงปมปัญหาของตัวละครนี้ มันอาจสะท้อนให้เห็นถึง “ความเป็นมนุษย์” ในชีวิตจริง ที่ยิ่งมีความตั้งใจมากเท่าไหร่มันอาจนำไปสู่หายนะที่ค่อย ๆ คืบคลานได้ด้วยเช่นกัน

จุดเริ่มต้นผ่านสงครามด้วยแสนยานุภาพ “ไททัน”

ในเรื่องราวของ Attack on Titan จะนำเสนอถึง 2 ชาติพันธุ์อย่าง “เอลเดีย” และ “มาร์เลย์” ต้นเหตุของเรื่องราวที่ทำสงครามมาตั้งแต่อดีต โดยเอลเดียเคยมีอำนาจรุกรานถิ่นต่าง ๆ ด้วยพลังของ “ไททันบรรพบุรุษ” จากสาวน้อยที่ชื่อ “ยูมีร์ ฟริทซ์”

ผู้ที่ได้รับพลังไททันนี้จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ 13 ปี หากต้องการรักษาพลังของไททันเอาไว้จะต้องสืบทอดโดยการ “กินผู้มีพลังคนก่อน” จึงทำให้เอลเดียขยายเผ่าพันธุ์และรุกรานเมืองต่าง ๆ เพื่อให้มีการขยายผู้สืบทอดพลังไททันต่อไป โดยผู้ที่โดนกระทบนี้มากสุดคือชาวมาเลย์ที่เป็นศัตรูโดยตรงกับเอลเดีย

จนกระทั่งมาเลย์ผู้ถูกกดขี่กลับพลิกวิกฤตพิชิตเอลเดียด้วยกลอุบายและการยึดพลังส่วนหนึ่งของไททันมาได้ หนึ่งในพลังที่ถูกนำมาครอบครองโดยพวกเขามีพลังของ “ไททันเกราะ” ที่มีพลังทะลุทะลวงทำลายเกราะป้องกันศัตรู เหมาะสำหรับการเป็นแนวหน้าของการรบเพื่อพิชัยสงคราม

ทำให้มาเลย์สามารถจัดการกับเอลเดียได้ ผลลัพธ์ของผู้พ่ายแพ้ถูกแบ่งออกเป็นหนีอพยพไป “เกาะสวรรค์” แล้วสร้างกำแพง 3 ชั้นเพื่อกันศัตรูรุกราน และมีผู้พ่ายแพ้อีกส่วนที่ยินยอมอยู่ร่วมกับมาเลย์ แต่ต้องถูกกดขี่ด้วยฐานะ “ผู้มีสายเลือดของบรรพบุรุษผู้ชั่วร้าย” ของเอลเดีย

จุดเริ่มต้นไททันเกราะ ‘ไรเนอร์ บราวน์’

ไรเนอร์คือเด็กหนุ่มเลือดเอลเดียที่อยู่ภายใต้การปกครองของมาเลย์ โดยเขาอาศัยอยู่ร่วมกับแม่ของเขาตั้งแต่กำเนิด ในวัยเด็กไรเนอร์ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กทั่วไปที่มีฝัน เขามักเห็นความเศร้าอันหยั่งลึกของแม่ที่ต้องหนักใจกับการมีสายเลือดของเอลเดียผู้ชั่วร้าย

เพราะการปลูกฝังความเชื่อของมาร์เลย์ด้วยการ “Propaganda (โฆษณาชวนเชื่อ)” ต่อชาวเอลเดียในเกาะสวรรค์ ส่งผลให้ชาวมาเลย์กดขี่เหยียดหยามบุคคลที่มีสายเลือดปีศาจนี้ ลามไปยังชาวเอลเดียอย่างไรเนอร์เองก็เกลียดชังเผ่าพันธุ์ตนโดยไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วอีกด้านของฝั่งกำแพงอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ถูกเป่าหูก็เป็นได้

ด้วยเหตุนี้ด้วยความปรารถนาต่อความเท่าเทียมของครอบครัว ไรเนอร์จึงมุ่งมั่นในการเป็น “นักรบเอลเดีย” เพื่อรับพลังไททันแย่งชิง “พลังไททันบรรพบุรุษ” ที่เกาะสวรรค์ แรงจูงใจนี้ทำให้ไรเนอร์มีเป้าหมายอย่างชัดเจน แต่ทว่า! นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการได้เรียนรู้ชีวิตที่ไรเนอร์อาจจดจำไว้อย่างไม่มีวันลืม

การเดินทางของไรเนอร์ สู่การเรียนรู้ชีวิตจริง

แม้ปมในใจคือแรงผลักดันให้ไรเนอร์มุ่งมั่นกับการได้ไปพิชิตภารกิจครั้งนี้ โดยมีพลังของไททันเกราะของไรเนอร์ร่วมทางกับเพื่อนอีก 3 คน อย่าง มาร์แซล แกลเลียร์ด กับพลัง “ไททันกราม”, แอนนี เลออนฮาร์ด กับพลัง “ไททันหญิง”,และแบร์โทลดท์ ฮูเวอร์ กับพลัง “ไททันมหึมา” เป็นกลุ่มทหารวัยเยาว์ที่ต้องปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ มีมาร์แซลที่วุฒิภาวะมากสุดเป็นผู้รับผิดชอบคนในทีม

การผจญภัยบนเกาะสวรรค์ได้เริ่มขึ้น ด้วยประสบการณ์ของทหารเด็กที่ยังอ่อนต่อโลกมาร์แซลถูกไททันตนนึงจับตัวและกำลังจะกินร่างของเขา แต่ไรเนอร์และผองเพื่อนที่ขาดความมั่นใจและกำลังสับสนกับการตัดสินใจที่มีผลต่อชีวิตเพื่อนของพวกเขากลับกำลังครุ่นคิดในสถานการณ์ที่คับขัน

ในส่วนของไรเนอร์เขานึกถึงเหตุการณ์ที่มาร์แซลพยายามปกป้องน้องชายตัวเอง อย่าง “พอร์โก้ แกลเลียร์ด” จากการต้องมาเป็นผู้สืบทอดพลังไททันเกราะ ทำให้ไรเนอร์ตระหนักภายในใจว่าแท้จริงแล้วเขาเองก็เป็นแค่ขี้แพ้ไม่ได้รับพลังมาด้วยตัวเอง จนพลาดท่าทำให้เกิดสถานการณ์ที่มาร์แซลต้องมารับเคราะห์แทน

จนสุดท้ายมาร์แซลก็ได้เสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา ส่งผลส่วนหนึ่งต่อไรเนอร์ทั้งเรื่องทิศทางว่าภารกิจจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ด้วยความรู้สึกที่ต้องการทำภารกิจให้สำเร็จและความสับสนต่อความสามารถที่ไร้ค่าของตัวเอง ทันใดนั้นแอนนีที่เสนอว่าเราควรกลับไปเพราะกลัวจะเกิดความสูญเสียมากขึ้น ทำให้ไรเนอร์ที่มีเป้าหมายชัดเจนตัดสินใจสานต่อภารกิจจากมาร์แซล

จากการตัดสินใจนี้ส่งผลให้เป็นบาปที่ติดตัวเขาไว้ จากความประมาทที่ส่งผลต่อการเสียเพื่อนนำไปสู่การทำภารกิจให้ลุล่วงและเป็นที่มาของการพังกำแพงให้ไททันบุกโจมตีชาวเอลเดีย นำไปสู่เรื่องราวที่เลวร้ายของตัวเอกของเรื่องที่เป็นปมในใจฝังลึกเอาไว้

ความสับสันในความเป็นจริงที่โหดร้ายผ่านไรเนอร์

เมื่อเรื่องราวของ Attack on Titan ดำเนินมาถึงภาคสุดท้าย เราได้รู้ความจริงว่า ไรเนอร์, แบร์ โทลดท์, และแอนนี คือคนที่แฝงเข้ามากับกลุ่มตัวเอก และเป็นผู้ก่อเหตุที่ทำให้ชาวเอลเดียต้องโดนไททันจู่โจมในเรื่อง 

และเป็นไรเนอร์คนเดียวที่ได้รับการช่วยเหลือให้รอดมาได้จากเกาะสวรรค์เพราะได้รู้ว่าพลังไททันที่พวกเขาตามหา ตอนนี้ได้อยู่กับใครแล้ว? ซึ่งจะนำไปสู่เรื่องราวสุดท้ายของทุกสิ่งที่เกิดขึ้น โดยในช่วงเริ่มต้นของภาคสุดท้ายจะเริ่มจากปมต่าง ๆ ของไรเนอร์ผู้ที่รับรู้ถึงหลาย ๆ สิ่งที่เกิดขึ้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าไรเนอร์คือผู้เริ่มปัญหาทั้งหมดด้วยต้นตออย่างที่ทราบกัน เขาถูกหลงเชื่อจากสังคม ถูกปัญหาบีบให้เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คนที่เขารักมีความสุข แต่ยิ่งได้ออกไปเผชิญความเป็นจริงมากเท่าไหร่ เขายิ่งรู้สึกผิดในความสับสนหลายอย่างที่เกิดขึ้น

เขารับรู้ว่าคนบนเกาะสวรรค์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ถูกกล่อมมาตั้งแต่เด็ก เขาเห็นความจริงมากมาย ได้ใช้ชีวิตร่วมกับเผ่าพันธุ์ดั้งเดิมของตน เรียนรู้ว่าคนอีกฝั่งไม่ได้แตกต่างกันเลยกับพวกเขา เหตุการณ์ที่เขาเล่าให้ครอบครัวฟัง และตอบคำถามถึงความเลวร้ายของคนในเกาะสวรรค์ยิ่งเล่าความจริงมากแค่ไหน ทุกคนที่ได้รับฟังกลับรู้สึกกลัวในความเข้าใจผิดจากสิ่งที่ได้ยิน แสดงออกให้เห็นถึงปัญหาความหวาดกลัว จนเก็บความผิดส่วนลึกภายในใจไว้ไม่อยู่

เช่นกันกับไรเนอร์ แม้จะรอดมาได้ดั่งวีรบุรุษ แต่เขาต้องเผชิญกับสภาวะ “PTSD” จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นสร้างปมทางจิตใจในตัวเขา ทั้งรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ทำเพราะคิดว่าสักวันมันจะดีขึ้น แต่มันไม่ใช่เลย เขากลับต้องคร่าชีวิตบริสุทธิ์มากมายเพียงเพื่อให้เขาได้ทำเป้าหมายที่เขาวางไว้ให้สำเร็จลุล่วง

เมื่อมองกลับมาที่ตัวเองในตอนนี้ มันไม่ได้ดีอย่างที่เขาได้วาดฝันเอาไว้ เขาไร้แรงปราถนาต่อการมีชีวิตด้วยการหยิบกระบอกปืนจ่อเข้าปากเพื่อคิดจะจบชีวิตตัวเอง คุกเข่าต่อหน้าผู้รู้ความจริงให้สังหารเขาที่ก่อเรื่องทั้งหมด เพียงเพราะเขาไม่อยากจะแบกรับความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นไปตลอดชีวิต ในตอนนี้เป้าหมายที่ได้ทำเอาไว้ มันกลับกลายเป็นบาปในตัวเขาที่กัดกร่อนจิตใจเปรียบดั่งคนที่มีชีวิตอยู่แต่เหมือนตายทั้งเป็น

ด้วยเหตุนี้ต้องก้มกราบให้กับอาจารย์ “ฮาจิเมะ อิซายามะ” ที่ถ่ายทอดตัวละครของไรเนอร์จนถูกแซวว่าเป็น “ลูกรัก” ของเขาที่ได้วาดขึ้น แม้เป็นไททันเกราะภายนอกดูแข็งแกร่ง แต่กลับกลายเป็นผู้ที่แบกรับพลังจากภายในที่ช่างเปราะบางจนเกิดเป็นความย้อนแย้งขึ้นในตัวละคร ที่ได้นำเสนอออกมาอย่างมีสเน่ห์ในแบบของมัน

ขอบคุณไรเนอร์ที่ทำให้รู้ว่ามนุษย์ก็เปราะบางและผิดพลาดกันได้ ยิ่งฝืนความเป็นจริงอาจยิ่งทำให้บางสิ่งมันเลวร้ายเกินต้านที่จะรับไว้ไหว ก่อเกิดเป็นตราบาปในใจที่มิอาจจะถูกลืมเลือน ทุกความคิด ทุกการกระทำล้วนนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เรียกว่า “กรรม” ผู้ถูกกระทำอาจไม่ใช่คนอื่นไกล แต่อาจเป็นคนใกล้ ๆ ที่สะท้อนออกมาคือ “ตัวคุณ”

อ้างอิง