Subway, Subway ประเทศไทย

‘อาหารฟาสต์ฟู้ด’ ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ช่วยคลายความหิวในช่วงเวลาที่รีบเร่ง ซึ่งแบรนด์ที่เรามักจะเห็นและใช้บริการกันอยู่บ่อย ๆ ก็คือ ‘Subway’ ซึ่งแบรนด์นี้ยืนอยู่ในวงการฟาสต์ฟู้ดมาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วย

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Subway เกิดขึ้นในปี 1965 เรื่องราวมีอยู่ว่า Fred DeLuca หนุ่มนักศึกษาแพทย์ในวัย 17 ปี มีความคิดที่อยากจะหารายได้มาเพื่อใช้สำหรับเป็นค่าเล่าเรียนของเขาเอง เขาจึงได้เดินไปยืมเงินกับ Peter Buck ซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อและแม่เขา จำนวน 1,000 ดอลลาร์ แต่ Peter Buck ไม่ได้ให้ยืม แต่ให้เงินจำนวนนี้ไปเลย และไม่เพียงแต่ให้เงินเพื่อใช้ในการลงทุนเท่านั้น Peter Buck ยังได้มอบไอเดียเกี่ยวกับการทำธุรกิจแซนวิสให้แก่ Fred DeLuca อีกด้วย 

ในช่วงแรก Peter Buck ได้เสนอให้ใช้ชื่อร้านว่า Pete’s Super Submarine เพราะตัว Peter Buck เองทำอาชีพเป็นนักฟิสิกส์ให้กับกองทัพเรือของสหรัฐฯ และมองว่าแซนด์วิชมีลักษณะยาวคล้ายกับเรือดำน้ำ แต่ในเวลาต่อมาก็ได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อให้สั้นลงเหลือเป็นเพียง Subway และใช้มาจนถึงปัจจุบัน วิธีการขายของ Subway จะเน้นไปที่การเสิร์ฟแซนด์วิชที่สดใหม่คุณภาพดี ในราคาที่ไม่แพง ซึ่งจะตรงกับสโลแกนของร้านที่ว่า ‘Eat Fresh’ ทำให้หลังจากนั้น 9 ปี แบรนด์ได้ถูกขยายออกมาถึง 16 แห่งในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐฯ และหลังจากนั้นก็ได้ขยายสาขาไปทั่วโลก ปัจจุบันมีจำนวนสาขาประมาณ 36,000 แห่ง โดยในประเทศสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียวก็มีสาขาประมาณถึง 20,000 แห่ง

จากร้านแซนด์วิชเล็ก ๆ มาสู่การเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ อาจจะมาจากการวางค่านิยมและหลักการในการทำธุรกิจที่แข็งแรง และยังคงใช้มาจวบจนปัจจุบัน ซึ่งค่านิยมและหลักการที่ว่า ประกอบไปด้วย การมอบการบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า, ขายสินค้าที่มีคุณภาพสูงและมีประโยชน์ในราคาที่ใครก็จับต้องได้และสามารถกินได้ทั้งครอบครัว และรักษาต้นทุนในการดำเนินงานให้ต่ำ, วางระบบให้ดี และไม่หยุดพัฒนาธุรกิจของตัวเอง

ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดของ Subway ปัจจุบันก็ยังคงเน้นไปที่ความสดใหม่ของวัตถุดิบและเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงการทำโมเดลธุรกิจแบบแฟรนไชส์ที่เข้าถึงง่ายและราคาไม่แพง นี่อาจจะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ Subway มีสาขากระจายไปทั่วโลกและประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้ อีกทั้ง Subway ยังมีการทำกิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ การเป็นผู้สนับสนุนด้านอาหารในช่วงภาวะวิกฤต, การจัดทำมูลนิธิ Subway Cares Foundation ที่จะช่วยเหลือในภาวะภัยพิบัติ รวมถึงสนับสนุนโครงการด้านการศึกษา เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูดีมากยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งกลยุทธ์ก็คือ การใช้กลยุทธ์เกี่ยวกับช่องทางบนโลกโซเชียลมีเดียในการโปรโมตแคมเปญต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้มีการนำสินค้าไปอยู่ในซีรีส์ นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างภาพจำแบรนด์และช่วยให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ส่วน Subway ในไทย บริษัท PTG Energy ผ่าน บริษัท โกลัค จำกัด (GL) ได้จัดตั้ง บริษัท โกซับเวย์ จำกัด (GS) เป็นบริษัทย่อยใหม่เพื่อดูแลธุรกิจ Subway ในประเทศไทย และเมื่อไม่นานมานี้เราน่าจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับบางสาขาที่ถูกยกเลิกสิทธิ์ไปแล้วแต่ยังคงใช้ชื่อ Subway อยู่ ทำให้มีปัญหาและถูกร้องเรียนในแง่ของคุณภาพสินค้า ส่วนสาขาที่มีสิทธิ์แฟรนไชส์อย่างถูกต้องมีทั้งหมด 51 สาขา อาทิ พัทยากลาง (ใกล้หาด), สนามบินภูเก็ต – ห้องรับรองผู้โดยสารระหว่างประเทศ, สุขุมวิท 23, เอาต์เลตมอลล์ พัทยา, สยามพารากอน, สนามบินภูเก็ต – ห้องรับรองผู้โดยสารภายในประเทศ, สนามบินดอนเมือง ระหว่างประเทศ, ฟอร์จูนทาวน์, บางจากสุขุมวิท 62, โรงเรียนนานาชาติ บางกอกพัฒนา, เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต, โรงพยาบาลเวชธานี, อมาติโอ ชิล ปาร์ค, ปั๊ม ปตท. เดอะ ดีล แจ้งวัฒนะ,  หาดจอมเทียน, โรงพยาบาลเมดปาร์ค, มอเตอร์เวย์ (ขาเข้า), สนามบินดอนเมือง อาคารเทอร์มินัล 2 ชั้น 1, เอ็มควอเทียร์ เป็นต้น

Subway, Subway ประเทศไทย

อย่างไรก็ดี ใครจะไปรู้ว่าจุดเริ่มต้นการทำธุรกิจของหนุ่มนักศึกษาแพทย์ที่อยากจะหารายได้ส่งตัวเองเล่าเรียนจะนำมาสู่แบรนด์ที่ปัจจุบันมีมูลค่าแบรนด์อยู่ที่ 7,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอยู่สูงเป็นอันดับที่ 4 ของโลกเลยทีเดียว

อ้างอิง