Burning Sun / BBC Word Service Documentaries

ตั้งแต่สารคดี Burning Sun: Exposing the secret K-pop chat groups – BBC World Service Documentaries ถูกปล่อยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 พฤษภาคม 2567) จนมียอดเข้าชมกว่า 2 ล้านวิวภายในระยะเวลาไม่กี่วัน และแสนกว่าไลก์ในช่องทาง YouTube ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งนี้ทำให้กระแสคดีอื้อฉาวอันโด่งดังในประเทศเกาหลีใต้และวงการเคป็อปอย่าง ‘Burning Sun’ กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง มีการพูดถึง และแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลายในวงกว้าง

อันที่จริงแล้วเรื่องราวของ Burning Sun ถูกเปิดเผยตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งชื่อดังกล่าวมาจากชื่อของคลับชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านกังนัม ประเทศเกาหลีใต้ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านของคนรวย โดยเหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความอื้อฉาวทั้งหมดเกิดมาจากการที่มีการเปิดเผยว่าในคลับดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติด การทารุณกรรมทางเพศ และการค้าประเวณี มีผู้เกี่ยวข้องเป็นไอดอลชื่อดังในวงการเคป็อปทั้งสิ้น เช่น อีซึงรี อดีตสมาชิกวง BIGBANG, จองจุนยอง อดีตนักร้องและนักแต่งเพลง และชเวจงฮุน อดีตสมาชิกวง FT Island โดยพวกเขาเหล่านี้ก็ได้เข้าเรือนจำไปเมื่อหลายปีก่อน 

ในครั้งนี้ BBC World ได้นำแต่ละประเด็นมาคลี่ขยายให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วยข้อมูลหลักฐานชุดใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ประกอบกับเสียงจากนักข่าวชาวเกาหลีใต้ที่ติดตามประเด็นเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด นั่นยิ่งทำให้เรื่องราวที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนถูกเปิดเผยในวันนี้ วันที่ผู้เกี่ยวข้องในคดีหลักพ้นโทษและถูกปล่อยตัวครบทุกคนแล้ว โดยที่จองจุนยองเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับการปล่อยตัวออกมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

วันนี้ SUM UP ขอชวนทุกคนมาดูแต่ละประเด็นอย่างชัด ๆ ว่าสารคดีชิ้นนี้เปิดเผยเรื่องราวสำคัญอะไรบ้าง

เส้นแห่งความสมยอมที่ถูกพร่าเลือนผ่าน ‘โมลกา’ (Molka)

สารคดีเริ่มต้นเล่าเรื่องโดยนำพาผู้ชมไปรู้จักกับคำว่า ‘โมลกา’ ซึ่งหมายถึงการซ่อนกล้องแอบถ่าย ทั้งการแอบถ่ายในที่สาธารณะ และการบังคับถ่ายคลิปทั้งที่อีกฝ่ายไม่สมยอม 

จุดเริ่มต้นมาจากการที่นักข่าวได้รับข้อมูลจากอดีตแฟนสาวของ ‘จองจุนยอง’ นักร้องและนักแสดงชื่อดังวัย 30 ในขณะนั้น ว่าเธอถูกตั้งกล้องแอบถ่ายโดยไม่ได้รับการยินยอมและเป็นกังวลว่าคลิปจะหลุดออกไป เธอเลยตัดสินใจเปิดเผยเรื่องนี้ ซึ่งตำรวจได้มีการเรียกจองจุนยองไปสอบสวนและได้มีการขอตรวจค้นโทรศัพท์แต่เขาไม่ยินยอม สุดท้ายแล้วอดีตแฟนสาวของจุนยองเล่าว่า มีการข่มขู่จากทางฝ่ายชายเธอจึงได้ถอนฟ้องไป ประกอบกับตำรวจเร่งปิดคดี นั่นจึงทำให้เรื่องราวนั้นจบไปแต่เพียงเท่านี้

แต่ก็เป็น ‘จุดเริ่มต้น’ ของเรื่องทั้งหมดด้วยเช่นกัน

หลังจากจบคดีนั้นไป ตำรวจก็ไม่ได้มีการยุ่งเกี่ยวกับโทรศัพท์ของเขาอีกเลย แต่อีกไม่กี่ปีต่อมาก็มีผู้เปิดเผยว่าอันที่จริงแล้วโทรศัพท์ของจองจุนยองมีข้อมูลที่อื้อฉาวมากกว่านั้น

สิ่งแรก คือ ‘คลิปโมลกา’ จำนวนมาก ทั้งคลิปกระทำอนาจารต่อผู้หญิง หรือคลิปที่แอบถ่ายผู้หญิงในคลับ และถัดมา ‘กลุ่มแชท’ ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญที่จองจุนยองเอาไว้ส่งต่อคลิปโมลกาเหล่านั้น พร้อมด้วยข้อความที่ดูถูกเหยียดหยามผู้หญิงและ ‘สมาชิกในแชท’ ที่มีบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการเคป็อปอย่าง ‘อีซึงรี’ และ ‘ชเวจงฮุน’

‘ธุรกิจที่ดำมืดเสียยิ่งกว่าสีดำ’

ดังที่กล่าวไปข้างต้น อีซึงรีและชเวจงฮุนปรากฏตัวทั้งในกลุ่มแชทของจองจุนยองและอยู่ในหลายคลิปที่เขาถ่าย ซึ่ง BBC World ได้คลี่ขยายประเด็นต่อว่า นั่นไม่ใช่เพียงแค่คลิปแอบถ่ายด้วยความไม่สมยอมธรรมดา ๆ แต่นี่คือการเปิดเผย ‘ธุรกิจสีดำ’ ของอีซึงรี ที่ว่าด้วยการจัดหาผู้หญิงไปค้าประเวณีให้กับมหาเศรษฐีและนักลงทุนต่างชาติ

ซึงรีตั้งตนราวกับเป็น ‘พ่อเล้า’ ที่คอยจัดหาผู้หญิงให้กับนักลงทุนต่างชาติในเส้นสายของเขา ทั้งจากจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และญี่ปุ่น

นอกจากนั้น เขายังดูเป็น ‘บิ๊กบอส’ ของเพื่อน ๆ ในกลุ่ม ซึ่งเขาได้ใช้เส้นสายทั้งจากตำรวจ นักลงทุน หรือผู้มีอิทธิพลในด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง ทำให้เขาเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในวงกว้าง ก่อกำเนิดกลายเป็นการเปิดคลับ Burning Sun ขึ้นมาในที่สุด คลับนี้เป็นธุรกิจคลับกลางคืนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในขณะนั้น ในช่วงแรกหลายคนรู้จักเพียงว่าเป็นคลับที่อีซึงรีเป็นเจ้าของ นั่นส่งผลให้มีลูกค้ามากมายทั้งหญิงและชายเข้ามาเที่ยวยามราตรีในที่แห่งนี้

แต่ที่แห่งนี้ได้มัดรวมความอื้อฉาวเอาไว้มากมาย โดยอดีตพนักงานของ Burning Sun ได้เปิดเผยกับ BBC World ว่า พนักงานในคลับมีการแอบถ่ายลูกค้าผู้หญิงเพื่อนำเอาไปเป็นจุดขายดึงดูดให้ลูกค้าผู้ชายเข้าร้าน, ที่นี่มี ‘ห้องลับ’ ที่ใครจะทำอะไรก็ได้ และผู้หญิงก็อาจถูกมอมได้ตลอดเวลา อีกทั้งโซน VIP ยังมีการเปิดห้องสำหรับเซ็ตราคา 75,000 ดอลลาร์ ทางร้านจะตอบแทนด้วยการเลือกผู้หญิง ‘คนไหนก็ได้’ ในคลับนั้นแล้วพนักงานจะนำพามาให้ถึงที่

“ฉันดื่มไปเพียงไม่กี่แก้วก็รู้สึกแปลก ๆ และรู้ตัวอีกทีฉันก็อยู่บนเตียงแล้ว” หนึ่งในผู้ที่เคยไปคลับดังกล่าวเปิดเผยกับ BBC World

ผู้เปิดเผยเรื่องราว และราคาที่นักข่าวต้องจ่าย

เรื่องนี้ถูกคลี่ขยายด้วยนักข่าวหญิง 2 คน ได้แก่ พัคฮโยชิล และคังคยองยุน

‘นักข่าวพัคฮโยชิล’ คือคนแรกที่เปิดเผยเรื่องราวที่จองจุนยองแอบถ่ายแฟนสาว ซึ่งก่อนที่คดีจะสิ้นสุด เธอถูกข่มขู่สารพัดจากแฟนคลับของเขาโดยในขณะนั้นเธอกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย

‘นักข่าวคังคยองยุน’ คือนักข่าวที่เปิดเผยเรื่องธุรกิจของซึงรี และเป็นที่รับรู้โดยทั่วกันว่าเธอกำลังตามติดประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด เธอถูกกดดันและข่มขู่จากแฟนคลับของฝ่ายชายเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชายคนนั้นคือหนึ่งในสมาชิกของวงบอยแบนด์ที่ดังมากที่สุดวงหนึ่งในขณะนั้น

นักข่าวคังคยองยุนยังเปิดเผยถึงบุคคลที่เป็นกุญแจสำคัญในการไขคดีเรื่องนี้ เธอคนนั้นคือ ‘คู ฮารา’ ไอดอลสาวชื่อดังแห่งวง KARA ที่เธอเป็นผู้ติดต่อนักข่าวคังคยองยุนมาเอง ฮาราเองก็รู้จักกับทั้งชเวจงฮุนและซึงรี อีกทั้งคลิปข้อมูลในโทรศัพท์เหล่านั้นเธอก็เป็นคนช่วยยืนยันว่าเธอเองก็เคยเห็นมันมาก่อน ซึ่งเมื่อได้เธอมาช่วยต่อจิ๊กซอว์ให้เรื่องราวปะติดปะต่อได้มากขึ้น คดีนี้จึงเป็นรูปเป็นร่าง และแต่ละคนที่เกี่ยวข้องก็เริ่มทยอยถูกสอบสวนและดำเนินคดี ส่งผลให้เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ฃ

ผู้เสียหายหลายคนเริ่มกล้าออกมาเปิดเผยเรื่องราวของตนเองมากยิ่งขึ้น นั่นทำให้นักข่าวคังคยองยุนก็ได้หลักฐานเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย และในขณะเดียวกันในเกาหลีใต้เองก็เริ่มมีการจุดประเด็นการไร้ความปลอดภัยจากการถูกแอบถ่ายโมลกาขึ้นมา การเคลื่อนไหวกำลังคุกรุ่นมากยิ่งขึ้น และ คู ฮาราก็เสียชีวิตจากปัญหาส่วนตัว (ในส่วนนี้ตำรวจระบุว่าไม่พบหลักฐานใด ๆ ว่าเป็นการฆาตรกรรม และมีแนวโน้มสูงมากที่จะเป็นการฆ่าตัวตาย)

ในขณะที่ฮาราเสียชีวิตไปได้ไม่กี่วัน ไอดอลชายทั้ง 3 คนที่เกี่ยวข้องถูกตัดสินจำคุก แต่ในปัจจุบันนี้พวกเขาเหล่านั้นได้รับการปล่อยตัวครบทุกคนแล้ว โดยที่อีซึงรีถูกจำคุกน้อยที่สุด มีระยะเวลาเพียง 18 เดือนเท่านั้น

ตัวเลขอาชญากรรมทางเพศที่ยังไม่ลด แถมมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น

แม้ว่ากระแสการขับเคลื่อนและเรียกร้องในประเด็นว่าด้วยความสมยอม (Consent) จะเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมูฟเมนท์ #MeToo ในเกาหลีใต้จากกลุ่มเฟมินิสต์นั้นจะมีความแข็งแรงอย่างยิ่ง หากแต่สิ่งที่สวนทางกันคือจำนวนตัวเลขของอาชญากรรมการแอบถ่ายโมลกาก็เพิ่มขึ้นไปถึง 11 เท่าในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนตัวเลขที่ BBC เปิดเผยก่อนจะจบคลิปไป

ผู้เขียนจึงได้สืบค้นต่อยอดว่า การก่อเหตุความผิดทางเพศ (Sexual Assault) ในเกาหลีใต้นั้นเป็นอย่างไรบ้าง ข้อมูลจากเว็บไซต์ statista ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมสถิติจากงานวิจัยจากหลายประเด็นทั่วโลกเผยว่า ตัวเลขของการเกิดขึ้นในการก่อเหตุความผิดทางเพศในเกาหลีใต้ยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยตัวเลขแรกจากปี 2008 คิดเป็นร้อยละ 30.8 จากประชากร 1 แสนคน ซึ่งข้อมูลล่าสุดจากปี 2022 ได้พุ่งไปสูงถึง 80.5 ในจำนวนอัตราประชากรที่เท่ากัน

อย่างไรก็ตาม ในคลิปสารคดีของ BBC World ในยูทูบได้มีการเปิดให้แสดงความคิดเห็นได้ พบว่ามีจำนวนชาวเกาหลีใต้ไม่น้อยที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในทำนองว่า คนเกาหลีใต้ (โดยเฉพาะผู้ชาย) ไม่เข้าใจถึงการยินยอมจริง ๆ และเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องพูดกันต่อไป

อ้างอิง

AUTHOR

หนังสือ ไพ่ทาโรต์ กาแฟส้ม แมวสามสี และลิเวอร์พูล