เด็กพิเศษ vs เด็กธรรมดา

ประเด็นเรื่องเด็กพิเศษกับเด็กปกติควรเรียนรวมกันหรือไม่เคยเป็นประเด็นถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน แต่ก็ไม่ได้มีข้อสรุปเสียทีเดียวว่าควรเป็นอย่างไร โดยผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูลเรื่องนี้ไว้ว่า เด็กพิเศษสามารถเรียนรวมกับเด็กปกติได้ แต่เบื้องต้นต้องประเมินความรุนแรงของเด็กพิเศษก่อน และเสนอเพิ่มเติมว่าประเด็นเรื่องเด็กพิเศษควรเรียนรวมกับเด็กปกติหรือไม่ ไม่สำคัญเท่าเรื่องการหาวิธีการที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ให้กับเด็กพิเศษคนนั้น ๆ

การจัดการเรียนการสอนร่วมระหว่างเด็กปกติและเด็กพิเศษมักจะถูกให้เหตุผลว่า “เพื่อส่งเสริมให้เด็กพิเศษมีพัฒนาที่เท่ากับเด็กปกติ” ซึ่งในแง่ของข้อเท็จจริงก็ดูจะเป็นไปในทิศทางนั้น และการจัดการเรียนการสอนร่วมก็มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ให้เรียนด้วยกันเต็มเวลาและทำกิจกรรมด้วยกันไปเลย หรือบางทีอาจจะให้เด็กพิเศษเข้าร่วมแค่บางวิชาหรือบางกิจกรรมเท่านั้น หรืออาจจะเป็นให้เด็กพิเศษเข้าร่วมกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดเป็นบางครั้งแต่ไม่ต้องเข้าเรียนตามเวลา เป็นต้น โดยคนที่จะต้องหาตรงกลางสำหรับเรื่องนี้อาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ ครู และผู้ปกครอง

การไม่เป็นที่ยอมรับในโรงเรียนอาจจะนำมาสู่ ‘ความรุนแรง’

‘เด็กพิเศษ’ คือ เด็กที่มีความแตกต่างไปจากเพื่อนในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นทักษะในการเรียนรู้ หรือลักษณะภายนอก แต่ก็มีเด็กพิเศษบางคนที่สามารถเรียนและเข้าสังคมกับเด็กปกติได้อย่างไม่มีปัญหาใด ๆ หากเพื่อนและคนรอบ ๆ ตัวมีความเข้าใจมากพอ แต่ก็มีเด็กพิเศษจำนวนไม่น้อยที่ไม่เป็นที่ยอมรับของเพื่อน ๆ หรือแม้กระทั่งครู เพียงเพราะพวกเขาแตกต่างจากเด็กปกติ และการไม่ถูกยอมรับอาจจะนำมาสู่การกลั่นแกล้งภายในโรงเรียน โดยจากสถิติจากกรมสุขภาพจิตเผยว่าในสัดส่วนของเด็กพิเศษ 100% เด็กพิเศษกว่า 30% มักจะถูกกลั่นแกล้ง หรือหากพวกเขาไม่ถูกกลั่นแกล้งก็อาจจะถูกปฏิเสธจากสังคมและอาจจะนำไปสู่อารมณ์ความรู้สึกที่เครียด ซึ่งความเครียดเหล่านั้นก็อาจจะสะสมและนำไปสู่ความรุนแรง หรืออาจจะแปรเปลี่ยนให้เขาเป็นคนที่หลีกหนีและกลัวการเข้าสังคมไปเลยก็เป็นได้.

การกลั่นแกล้งเด็กพิเศษในประเทศไทยมีหลากหลายตัวอย่าง อาทิเช่น กรณีของเด็กพิเศษอายุ 15 ที่ถูกทำร้ายร่างกายจากเพื่อนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม และครูไม่ให้การช่วยเหลือรวมถึงไม่รับฟังเด็ก หรืออย่างกรณีของคุณกิดานันท์ งามดีวิไลศักดิ์ ที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ เคยได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งเด็กพิเศษว่า เด็กพิเศษมักเป็นเป้าหมายของการถูกกลั่นแกล้งเพราะเด็กคนอื่น ๆ จะมองว่าเป็นเด็กที่น่าหมั่นใส้ แต่ในขณะเดียวกันเด็กพิเศษก็อาจจะเป็นคนกลั่นแกล้งเด็กคนอื่นได้เช่นกัน เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าการกระทำของตนเองคือการกลั่นแกล้ง

หากพูดกันแบบตรงไปตรงมาไม่ได้โดยไม่ได้มาหาความชอบธรรมให้กับเด็กพิเศษปัญหาสำคัญเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่อง มาตรวัดการเรียนรวมระหว่างเด็กพิเศษกับเด็กปกติมากกว่าว่าควรอยู่จุดไหนกันแน่?

คำตอบง่าย ๆ ของเรื่องนี้ก็คือ ‘เด็กพิเศษ’ ควรได้รับการประเมินจากแพทย์อยู่เป็นระยะ ๆ ว่าอาการรุนแรงอยู่ในระดับไหน ถ้ารุนแรงเกินกว่าระดับที่เรียนรวมกับเด็กปกติได้ อาจจะจำเป็นต้องได้รับการรักษาและการดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงออกแบบการเรียนรู้ให้เหมาะกับเด็กพิเศษเป็นกรณี ๆ ไป แต่ถ้าหากประเมินแล้วไม่ได้อยู่ในระดับที่รุนแรงมากก็อาจจะเรียนรวมกับเด็กปกติได้ แต่ทั้งนี้ครูและผู้ปกครองอาจจะต้องคอยสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างเด็กพิเศษกับเพื่อน ๆ ว่าเป็นไปในทิศทางใด คอยสร้างบรรยากาศให้พวกเขาสื่อสารสิ่งที่เขากำลังนึกคิดอยู่บ่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเครียด ความเป็นคนอื่น และอาจจะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นในโรงเรียน

อ้างอิง