หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 เสียงให้ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และมีพฤติการณ์ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงอันมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5) กรณีแต่งตั้งให้ ‘พิชิต ชื่นบาน’ นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินดังกล่าว ‘เศรษฐา ทวีสิน’ อดีตนายกฯ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ณ ทำเนียบรัฐบาล 

เศรษฐากล่าวว่า “คำพิพากษาออกมาแล้วนะครับ ผมขอบคุณตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ให้โอกาสทุกฝ่ายชี้แจงประเด็นทั้งหลาย ผมยืนยันว่าตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ดำรงตำแหน่ง ผมพยายามทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ยึดมั่นอุดมการณ์ และทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยืนยันว่าไม่ได้ทำตัวเป็นที่ขัดแย้งของทุกคน และเคารพการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

ผมเสียใจที่ถูกกล่าวว่าเป็นนายกฯ ที่ไม่มีจริยธรรม ซึ่งผมยืนยันว่าผมไม่ใช่คนอย่างนั้น แต่ภารกิจยังมีอีกเยอะ ปัญหาของพี่น้องประชาชนยังมีอีกเยอะ และดังที่ผมได้กล่าวไปว่า บ้านเมืองยังมีคนเก่งอีกหลายคนที่สามารถมายืนตรงนี้และทำงานต่อไปได้ และผมมั่นใจในกระบวนการสรรหานายกก็ต้องผ่านสภาและเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย” 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงบทเรียนจากการเป็นนายกฯ เศรษฐากล่าวต่อว่า “วันนี้ศาลตัดสินมาแล้วไม่เป็นดังที่เราคาดหวังไว้ แต่การที่จะบอกว่าเป็นบทเรียนราคาแพงหรือมีใครวางยา ผมว่าอย่าไปกล่าวล่วงใครดีกว่า น้อมรับคำตัดสินและเดินข้างหน้าต่อไป ปล่อยให้กระบวนการทางนิติบัญญัติ, สภา เดินหน้าในการสรรหานายกรัฐมนตรีคนต่อไป และหากจะบอกว่าที่ผลออกมาเป็นเช่นนี้เพราะผมไว้ใจคนนั้นคนนี้ ผมว่าไม่ใช่หรอกครับ ผมว่าทุกคนมีความหวังดีกับประเทศชาติขึ้นอยู่กับว่าจะทำกันอย่างไร ผมยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ทำงานในตึกนี้ ผมทำหน้าที่อย่างเต็มที่และด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ได้มีปัญหาหรือขัดแย้งกับใครเป็นการส่วนตัวเลย

ส่วนในประเด็นของนโยบายรัฐที่บางนโยบายได้เริ่มทำไปบ้างแล้ว เศรษฐากล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลที่มีการประกาศออกไปแล้ว ผู้ที่มาสืบทอดตรงนี้จะทำต่อหรือไม่ ผมเรียนตรง ๆ ว่าผมตอบไม่ได้ ผมไม่ทราบว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี อันนี้ต้องให้เกียรติกับรักษาการนายกฯ และนายกฯ คนต่อไป แต่ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมหรือพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็น เขามีสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายได้ตามเห็นสมควร เราต้องยอมรับว่าเราหมดหน้าที่ไปแล้วตอน 15:30 น. ของวันนี้ ผมไม่มีอำนาจแล้ว”

อย่างไรก็ดี แคนดิเดตนายกฯ คนต่อไป ประกอบไปด้วย 7 คน ได้แก่ แพทองธาร ชินวัตร, อนุทิน ชาญวีรกูล, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, ประวิตร วงษ์สุวรรณ, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และชัยเกษม นิติสิริ โดยจะมีการการลงมติเลือกในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป