Top Pride Friendly Destination

เข้าสู่เดือน Pride หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มความหลากหลายทางเพศแล้ว โดยในหลายประเทศได้มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเพื่อแสดงออกถึงความภาคภูมิใจของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศและสิทธิของความเท่าเทียม ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายนของทุกปี พร้อมกับสัญลักษณ์สีรุ้ง

กลุ่ม LGBTQIAN+ เป็นผู้บริโภคที่กำลังถูกจับตามองในเวลานี้ เนื่องด้วยพฤติกรรมและการใช้ชีวิต ไปจนถึงรสนิยมเรียบหรู ดูแพง มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง เดินทางท่องเที่ยวบ่อยเฉลี่ยปีละ 3 – 4 ครั้ง และมีระยะเวลาพักยาวกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป จึงเป็นที่หมายปองของแบรนด์ชั้นนำ รวมไปถึงธุรกิจด้านท่องเที่ยว โดยปัจจัยหลักของการออกเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นการเดินทางเพื่อพักผ่อนหลบหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวันและประสบการณ์ใหม่ ๆ ของแหล่งท่องเที่ยว ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวยังมีส่วนสำคัญในการสร้างความผูกพันระหว่างคู่รักผ่านการสร้างสรรค์ประสบการณ์ดี ๆ ร่วมกัน

ปัจจุบันเพศวิถีมีหลากหลายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQIAN+ ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย โดยข้อมูลจาก LGBT Capital พบว่า ในปี 2022 มีชาว LGBTQ+ ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีทั่วโลก มีจำนวน 388 ล้านคน และกลุ่มนี้มีกำลังการใช้จ่ายมูลค่าประมาณ 4.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งก่อให้เกิดเม็ดเงินไหลเวียนทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ขณะที่ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวจากกลุ่มนี้อยู่ที่ราว 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 2.26 แสนล้านบาท (ข้อมูล ณ ปี 2561 – 2562) ครองอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย และอันดับ 4 ของโลก รองจาก สหรัฐอเมริกา (25.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ), สเปน ( 8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และฝรั่งเศส (7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงเล็งเห็นโอกาสในการส่งเสริมตลาด จึงได้ร่วมกับพันธมิตรเฉลิมฉลองเดือนแห่ง Pride อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการสนับสนุนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในการเป็น Pride Friendly Destination และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยใน Pride Month เพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศ เตรียมสนับสนุนการจัดกิจกรรม อาทิ งาน Colorful Pride Festival 2024 ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2567 ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมหกรรมไพรด์ทั่วประเทศ (Nationwide Pride Festival) จะจัดขึ้นทั้งหมด 5 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ นครราชสีมา ภูเก็ต ชลบุรี และคาดว่าการจัดงานดังกล่าวจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 860,000 คน และสร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 4,500 ล้านบาท

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQIAN+ ที่มีอยู่กว่า 500 ล้านคนทั่วโลก อยู่ในแถบเอเชีย 288 ล้านคน อันดับ 1 จะเป็นจีน อยู่ที่ราว 90 ล้านคน ตามมาด้วย อินโดนีเซีย 17 ล้านคน ญี่ปุ่น 8.2 ล้านคน ฟิลิปปินส์ 6.9 ล้านคน เวียดนาม 6.1 ล้านคน ส่วนในไทยมีประมาณ 4 ล้านคน ซึ่งในอนาคตจะมีประชากร LGBTQIAN+ แตะ 1,000 ล้านคน ในปี 2593

ผลวิจัยจากเอาท์ นาว คอนซัลติ้ง ร่วมกับ เวิลด์ ทราเวล มาร์เก็ต (WTM) ระบุว่า ประเทศไทยถือเป็น 1 ใน 3 ประเทศเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวกลุ่มเพศทางเลือก หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวทั่วไปให้ความสนใจ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวที่ไม่สูงนัก ประกอบกับมาตรการด้านสาธารณะสุขที่เข้มแข็ง ซึ่งจุดหมายปลายทางในไทย นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะนิยมเดินทางเที่ยว กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต เกาะสมุย และพัทยา ฉะนั้นการใส่ใจและเข้าใจความหลากหลายอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้ภาคการท่องเที่ยวในอนาคตได้