สายตามันหลอกกันไม่ได้!!

ดราม่าหนึ่งวันบนสังเวียน ONE167 หลากอารมณ์หลายเหตุการณ์ผ่านสายตาผู้รับชม

10 มิถุนายน 2567

“ขอโทษ ที่ทำให้ผิดหวัง
ไม่รู้จะพูดยังไง ไม่มีอะไรจะพูด
ในใจผม.. ผมลูกผู้ชายพอ ผมไม่อยากจะพูดอะไร”

คำกล่าวของ “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย หลังชนะผลคะแนนจาก “Smokin’ Jo” โจ ณัฐวุฒิ ป้องกันเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวตเอาไว้ได้อีกครั้ง

แม้จะเป็นผู้ชนะของคู่ชกเอก “ONE167” แต่รูปประโยคที่กล่าวออกมาแสดงถึงการออกมายอมรับของเจ้าตัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเวที โดยผลลัพธ์การแข่งขันดันไปค้านสายตาจากคนดูทั่วโลกที่มองว่า โจ ณัฐวุฒิ ทำได้ดีกว่า กลายเป็นกระแสหลังแข่งไปทั่วโซเชียลถึงการแข่งขันที่เพิ่งเกิดขึ้นไป

นอกจากดราม่าที่เกิดขึ้นในคู่เอกแล้ว ทางคู่รองระหว่าง “The Iron Man” รถถัง จิตรเมืองนนท์ พบกับ “The Bosnian Menace” เดนิส พูริช และก็เป็นทางขวัญใจมหาชนชาวไทยอย่างรถถังที่สามารถเอาชนะไปได้ในรูปแบบกติกาคิกบ็อกซิ่ง

ความน่าสนใจหลังจากจบคู่รองนี้คือ การร่ำไห้ของรถถังหลังจากผ่านกระแสดราม่าอย่างถาโถม ที่เจ้าตัวเกือบไม่ได้ลงแข่งใน ONE167 เนื่องจากค่าเกณฑ์ร่างกายก่อนลงชกในสนามไม่ผ่าน และกลายเป็นการโจมตีถึงความไม่รับผิดชอบของเจ้าตัว

“…ผมเต็มที่ ผมอยากชกมวยมาก ผมรอไฟต์ที่จะชก แต่ผมมีอาการบาดเจ็บ ผมทรมานตัวเอง ผมชอบชกมวย แต่ผมมาเจอดราม่าเมื่อวาน ผมท้อมาก ผมแบบไม่รู้จะสู้ยังไงวันนี้ ผมเจอแรงกดดันเยอะมาก ถ้าผมแพ้ผมจะยืนบนสังเวียนนี้ต่อได้หรือเปล่า…
…แต่วันนี้ผมทำสำเร็จแล้ว ผมขอบคุณทุกคนที่รัก และชื่นชมผม”

นับเป็นหนึ่งวันของ 2 เหตุการณ์คู่ชกสำคัญจากการแข่งขันกีฬาต่อสู้ ONE167 ที่ครบรส และหลากหลายทางรสชาติจากเรื่องราวสำคัญต่าง ๆ บนเวทีสังเวียนเดียว ที่ผู้ชนะจากความผิดหวัง และผลลัพธ์ที่ค้านความจริงจากแฟนมวยทั่วโลก ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจะถูกรวบรวมและเข้าใจทุกเรื่องราวไปพร้อมกันครับ

สังเวียนไทย “ONE167”

“ONE167” คือหนึ่งในการแข่งขันกีฬาการต่อสู้ที่ถูกจัดขึ้นโดย “วัน แชมเปี้ยนชิพ” หรือที่เรารู้จักในนามว่า “ONE” โดยครั้งนี้ได้กลับมาจัดขึ้นที่ประเทศไทยอีกครั้ง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในไฟต์การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่สุดประจำปี 2024 เลยก็ว่าได้

ในช่วงบ่ายวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา “ริช แฟรงคลิน” รองประธาน วัน แชมเปี้ยนชิพ ได้ออกมาแถลงถึงการจัดการแข่งขัน ONE167 ที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน (ตามเวลาบ้านเรา)

การแข่งขันนี้จะมีทั้งหมด 11 คู่ โดยคู่ที่ถูกจับตามองจากทั่วโลกคือ 2 คู่หลัก อย่าง

คู่เอก “ชิงแชมป์โลก มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต” : ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย ชกกับ โจ ณัฐวุฒิ
คู่รอง “คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต” : รถถัง จิตรเมืองนนท์ ชกกับ เดนิส พูริช

เป็น 2 คู่ที่แฟนมวยทั่วโลกรวมถึงแฟนมวยในบ้านเราต่างก็รอคอยที่จะได้ดูมวยคู่ใหญ่ประจำปีนี้

ดราม่าคู่รอง : การเตรียมตัวของ The Iron Man

แม้จะเป็นเพียงคู่รองในการแข่งขันนี้ แต่ขวัญใจชาวไทยอย่าง The Iron Man รถถัง จิตรเมืองนนท์ ที่จะได้กลับมาขึ้นชกอีกครั้งหลังจากห่างหายออกจากวงการกีฬาต่อสู้ และออกรับงานต่าง ๆ มากมายจนมีชื่อเสียงที่ดีขึ้นสำหรับเจ้าตัว

แต่การกลับมารอบนี้กลายเป็นอุปสรรคที่เขาต้องเผชิญ เมื่อหนึ่งวันก่อนขึ้นชกปรากฏว่ารถถังมีค่าน้ำและน้ำหนักตัวถึง 138.5 ปอนด์ เกินเกณฑ์ของกติกาฟลายเวตต้องอยู่ในช่วง 125 – 135 ปอนด์ที่กำหนดขึ้นของ ONE และเมื่อมองไปดูทางคู่แข่ง อย่าง เดนิส พูริช ที่วัดค่าน้ำผ่านและมีน้ำหนัก 134.75 ปอนด์ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถขึ้นชกได้ของทาง ONE

ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้แฟนมวยที่ต่างรอคอยการกลับมาของรถถังต่างรู้สึกผิดหวังต่อสิ่งที่เกิดขึ้น หลากหลายเหตุผลที่เข้ามาโจมตีเจ้าตัว ถึงกับต้องออกมายอมรับผิดและขอโทษต่อแฟนมวยทั่วโลกและแฟนมวยชาวไทย ส่งผลให้เจ้าตัวต้องปรับให้ค่าน้ำผ่านเกณฑ์และน้ำหนักสุดท้ายจะต้องไม่เกิน 5% ของน้ำหนักคู่แข่ง

จากกรณีของรถถัง เจ้าตัวต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 141.48 ปอนด์ และเขาก็สามารถทำได้ด้วยค่าน้ำที่ผ่าน รวมถึงน้ำหนักสุดท้ายที่ 141.25 ปอนด์ สามารถทำการขึ้นชกได้อีกครั้ง และรถถังได้เจรจาตกลงเรื่องชดเชยน้ำหนักกับทางคู่แข่ง เพราะนักชกที่ผ่านเกณฑ์สามารถใช้สิทธิ์เรียกค่าชดเชยเป็นเปอร์เซ็นหักจากค่าตัวของคู่แข่งที่ไม่ผ่านเกณฑ์ได้ ทั้งหมดนี้จึงเป็นหนึ่งในความวุ่นวายก่อนแข่งและความกดดันต่อรถถังที่จะต้องขึ้นชกต่อหน้าแฟนมวยในประเทศที่กำลังตั้งคำถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าตัวว่าถูกต้องและเหมาะสมแล้วหรือไม่

ดราม่าคู่รอง : น้ำตากู้ศักดิ์ศรีอีกครั้งของรถถัง

บนความกดดันของมนุษย์คนหนึ่ง ต่อให้จะเก่งมากแค่ไหนมันก็ฝังความรู้สึกกังวลภายในใจต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อทุกอย่างต่างผ่านเรียบร้อยสำหรับการแข่งขัน ต้องปรับกติกาจาก “ฟลายเวต” เป็น “เคตช์เวต” จากกรณีความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และเป็นคู่รองที่ยังถูกจับตามองว่าน่าสนใจสำหรับคอกีฬาต่อสู้ที่รอคอย

ไม่ว่าจะผ่านความผิดพลาดมาหนักหนามากแค่ไหน แต่เมื่ออยู่บนสังเวียนด้วยหน้าที่และประสบการณ์ที่กลั่นออกมาเป็นฝีมือ คน ๆ หนึ่งสามารถจะลบเสียงวิจารณ์ลงได้ด้วยทักษะและแรงหมัดที่สะสมมา ค่อย ๆ แลกอาวุธกับคู่แข่งจนจบทั้ง 3 ยก ด้วยความเป็นเอกฉันท์บนเวที ทำให้รถถังสามารถเอาชนะ เดนิช พูริส ไปได้ และทำให้เจ้าตัวถึงกับหลั่งน้ำตาจากสิ่งที่แบกตลอดหนึ่งวันก่อนขึ้นชก

ต่อให้เก่งมากเพียงใด มนุษย์ย่อมผิดพลาดกันได้ เจ้าตัวยอมรับต่อสิ่งที่เกิดขึ้น บทเรียนที่คน ๆ หนึ่งต้องเจอจากช่วงเวลาที่กัดกร่อนใจจากสิ่งที่ไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เมื่อทำสำเร็จและเรียนรู้ต่อสิ่งที่พลาดพลั้ง เราจึงเห็นรถถังในฐานะนักมวยที่เป็นมนุษย์ ดำรงสิ่งนี้ต่อสู้เพื่อผลักดันให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ การยอมรับและแก้ไขมัน สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องดี ๆ อย่างหนึ่งบนกระแสรุนแรงที่กระทบเข้าใส่เจ้าตัว และเป็นสิ่งดี ๆ ที่เป็นบทเรียนให้คนทุกคนสามารถเผชิญต่อความผิดพลาดของตนได้ บทหนึ่งในการเป็นมนุษย์บนโลกนี้

ดราม่าคู่หลัก : ชัยชนะที่ค้านสายตาคนดู

หลังจากผ่านเรื่องราวความผิดพลาดของรถถังในคู่รอง คู่หลักอย่างตะวันฉายและโจคือคู่ที่ถูกจับตามองมากสุดในด้านความสามารถ ฝีมือ และความนิยมของทั้งคู่ เรียกได้ว่านี่คือการเฝ้ารอของปีในกีฬาการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยตำแหน่งแชมป์โลกมวยไทย

อาจจะไม่ดราม่าก่อนเกมเหมือนเรื่องราวคู่รอง แต่ความน่าสนใจของคู่นี้คือเรื่องราวระหว่างเกมที่เพิ่มความสนุกของการแข่งขันสมการรอคอยเป็นอย่างมาก ใน 2 ยกแรกทั้งตะวันฉายและโจต่างชิงจังหวะออกอาวุธใส่แลกกันต่อเนื่อง ตะวันฉายสาดแข้งซ้าย โจสวนหมัดเน้นอันตราย

จนเข้ามาสู่ยกที่ 3 เมื่อโจเปิดหน้าเดินเกม และได้โอกาสยิงหมัดขวา เน้นเข้าเบ้าจนตะวันฉายออกอาการหงายชัดเจน เมื่อเข้า 2 ยกท้ายกลายเป็นตะวันฉายคืนสู่เกมใช้ความสดบดรุ่นพี่ประเคนอาวุธซ้ายทั้งหมัดทั้งแข้ง สลับศอกช่วงคลุกวงใน โดยโจเน้นรับและหาโอกาสสวนกลับเป็นช่วง ๆ ตลอดท้าย

สำหรับคนดูเมื่อรวบรวมทุกจังหวะเป็นโจที่ใช้โอกาสเน้น ๆ ใส่ตะวันฉาย อย่างเช่นในยก 3 ที่มีจังหวะยัดเข้าเบ้าจนตะวันฉายมีอาการชัด แม้จะค่อนข้างสูสีแต่เป็นโจที่ดูจะได้โอกาสคว้าเข็มขัดแชมป์ไปครอง ผลปรากฏกลายเป็นเสียงข้างมากจากกรรมการยกตะวันฉายได้ป้องกันแชมป์อีกครั้ง สร้างความงงงวยกับคนในสนามที่ตะลึงกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนำไปสู่ความไม่พอใจของผู้ชมในสนาม ลามไปถึงคนดูทั่วโลกที่ต่างไม่เห็นด้วยกับผลการแข่งขันนี้ เสียงโห่เริ่มกังวาลขึ้นเมื่อการแข่งขันกลายเป็นความไม่ยุติธรรมต่อทุกสายตาที่จับจ้องอยู่ในสนามและทั่วทุกมุมโลก

ทางผู้ชนะอย่างตะวันฉายเองที่แลดูไม่เห็นด้วยกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แต่ด้วยหน้าที่ของนักกีฬาเมื่อผลการตัดสินได้ถูกรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาจึงต้องยอมรับต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และยังคงให้เกียรติต่อรุ่นพี่อย่างโจคู่ชกของเขา จนกลายเป็นคำสัมภาษณ์ที่ออกมายอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าเขาเองก็อาจจะพูดออกมาไม่ได้ทั้งหมด แต่ขอแสดงความจริงใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างที่ทุกคนต่างรับรู้

หรือแม้แต่ “บอสชาตรี” ศิษย์ยอดธง ประธานและผู้บริหารของวัน แชมเปี้ยนชิพ ได้ออกมากล่าวว่า “ในความคิดส่วนตัวผม ผมว่าโจสมควรชนะ แต่ในแง่การออกอาวุธตะวันฉายทำได้ดีกว่า แต่แน่นอนผมต้องการจัดแก้มือของคู่นี้อีกที่อเมริกา”

แม้จะมีการแก้ไขผลลัพธ์ต่อความผิดพลาดจากเสียงตอบรับที่ไม่เห็นด้วยจากการแข่งขัน ต้องยอมรับว่าบางครั้งการออกมาแสดงความรับผิดชอบอย่างสัตย์จริง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชนะ อย่าง ตะวันฉายหรือประธานหลัก อย่าง บอสชาตรีนั่นอาจเป็นสิ่งที่สมควรเกิดขึ้นในความเป็นจริง

จากทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ONE167 กลายเป็นหนึ่งเรื่องราวที่แสดงออกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในด้านต่าง ๆ อยู่ ถึงคน ๆ นั้นจะกล้ายอมรับและแก้ไขมันไปได้ สิ่งที่ตามมาจะนำไปสู่ความเคารพและการยอมรับหากสิ่งที่ทำเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่ทำอย่างถูกต้องด้วยความสัตย์จริง นั่นจะช่วยให้ความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตบนโลกนี้มีสิ่งที่ดีควบคู่กับปัญหาที่พร้อมจะผุดขึ้นมาได้ตลอดเวลาเพื่อให้เราได้รับมือกับมัน

อ้างอิง