ปิดฉาก 13 ปีของ ‘แพนด้าสีชมพู’ ส่งอาหารทั่วไทย

25 เมษายน 2568

นับเป็นอีกหนึ่งเจ้าที่ถอนตัวออกจากสนามธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ เมื่อ Foodpanda ในไทยประกาศยุติให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา และจะมีผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป ซึ่ง Foodpanda นับว่าเป็นฟู้ดเดลิเวอรี่รายแรก ๆ ที่เข้ามาบุกตลาดในไทย และก่อนที่จะโบกมือลากันไปในเดือนหน้า เราจึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับ Foodpanda หมีแพนด้าสีชมพูที่คอยรับส่งอาหารกันอีกสักครั้ง

Foodpanda ก่อตั้งขึ้นในปี 2555 ภายใต้เครือ Rocket Internet บริษัทสตาร์ตอัปด้านอีคอมเมิร์ซ สัญชาติเยอรมนี ต่อมาในปี 2559 บริษัท Delivery Hero ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติเยอรมนีเช่นกันได้เข้าซื้อกิจการ และถัดมาในปี 2560 ก็ได้มีการรีแบรนด์จากสีส้มมาเป็นสีชมพู ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากสร้างความแตกต่างและความโดดเด่นให้กับแบรนด์ เพราะสีส้มเป็นสีที่ถูกใช้อย่างแพร่หลาย

Foodpanda ได้เข้ามาบุกตลาดในไทยตั้งแต่ช่วงที่ก่อตั้งแรก ๆ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นโลโก้สีส้มและให้บริการผ่านเบราว์เซอร์และฮอตไลน์อยู่ จนในปี 2556 ก็ได้มีการพัฒนาและเริ่มให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน โดย Foodpanda ได้รับความนิยมสูงขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด เพราะผู้คนไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ และการสั่งอาหารออนไลน์มาทานที่บ้านก็ดูเป็นวิธีการที่สะดวกมากกว่า แต่ทั้งนี้ก็มาพร้อมกับการแข่งขันที่ดุเดือดจากผู้เล่นรายอื่น ๆ ในตลาด

ในปี 2563 Foodpanda ได้เริ่มขยายฐานการให้บริการครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย และมีพันธมิตรร้านอาหารมากกว่า 120,000 ร้านค้า แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของ Foodpanda ก็เกิดขึ้นในปี 2564 ที่ตอนนั้นมีการชุมนุมทางการเมืองและมีคนที่คล้ายว่าจะเป็นไรเดอร์ของทาง Foodpanda เข้าร่วมการชุมนุมด้วย เมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป Foodpanda ก็ได้ออกมาตอบกลับว่า เตรียมพิจารณาจะไล่ไรเดอร์คนนี้ออก ทั้งยังมีการพูดถึงนโยบายต่อต้านความรุนแรงและการก่อการร้ายทุกรูปแบบ แม้จะมีแถลงการณ์ขอโทษในเวลาต่อมา แต่สิ่งนี้นำมาสู่ความไม่พอใจและกระแส #BanFoodpanda กว่า 1 ล้านทวีตบน X

ทีนี้หากเรามาไล่ย้อนดูข้อมูลรายได้ของบริษัท เดลิเวอรี่ ฮีโร่ (ประเทศไทย) จำกัด จะพบว่าไม่มีปีไหนที่สามารถทำกำไรได้เลย โดยข้อมูล 5 ปีย้อนหลัง มีรายละเอียดดังนี้

ปี 2562 รายได้รวม 818 ล้านบาท ขาดทุน 1,260 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้รวม 4,370 ล้านบาท ขาดทุน 3,590 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้รวม 6,780 ล้านบาท ขาดทุน 4,7 20 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้รวม 3,620 ล้านบาท ขาดทุน 3,250 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้รวม 3,840 ล้านบาท ขาดทุน 522 ล้านบาท

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าจากที่เล่ามาทั้งหมด หลายคนน่าจะพอเห็นถึงปัจจัยบางประการที่น่าจะส่งผลให้แพนด้าสีชมพูถึงเวลาต้องโบกมือลาประเทศไทย นอกจากนี้การแข่งขันที่ผ่านมาของสนามฟู้ดเดลิเวอรี่ค่อนข้างดุเดือด ข้อมูลจากบางแหล่งระบุว่า ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ในไทยมีแนวโน้มที่จะเหลือผู้เล่นหลักเพียง 2 – 3 ราย ซึ่งจะสอดคล้องกับตลาดโลก เพราะมีข้อจำกัดด้านขนาดตลาดและจำนวนประชากรนั่นเอง