แม้หลายคนอาจจะไม่รู้ แต่ความจริงบาร์บี้ถือเป็นนักปฏิวัติสตรีนิยมสำหรับคนรุ่นแรก ๆ และช่วยนำไปสู่การต่อสู้ของผู้หญิงในศตวรรษที่ 21 แม้จะเป็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน เพราะบาร์บี้ได้จุดประกายความขัดแย้งในหมู่นักสตรีนิยมเนื่องจากรูปร่างที่ไม่สมจริง ซึ่งเป็นตัวแทนของทัศนคติแบบเหมารวมสำหรับผู้หญิง แต่หากลองย้อนมองไปถึงวิธีคิดของผู้สร้างบาร์บี้ จะเห็นได้ว่า “บาร์บี้” ได้จุดประกายความคิดของผู้หญิงหลาย ๆ คน ให้เป็นอะไรได้มากกว่าที่เธอคิด
บาร์บี้จึงไม่ได้เป็นเพียงของเล่น แต่เป็นแนวคิดที่พัฒนามาจากประสบการณ์ของผู้หญิง ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและมีคุณลักษณะเด่นที่สนับสนุนสตรีนิยม หากเรามองประวัติศาสตร์ของตุ๊กตาผมทองตาสีฟ้าที่ครองใจเด็กสาวจากรุ่นสู่ เราจะเห็นถึงประวัติศาสตร์ของผู้หญิงที่เดินออกมาจากกรอบเดิม ๆ และกล้าที่จะต่อสู้เพื่อความคิดของตนเอง เนื่องด้วยในวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดของ Barbie และเป็นวัน International Women’s Day เราจะพาไปย้อนจะไปดูถึงไทม์ไลน์ของบาร์บี้ที่ถือเป็นอีกหนึ่งในไอคอนของสตรีนิยมในยุคสมัยนี้
บาร์บี้มีต้นกำเนิดมาจากตุ๊กตา Lilli ของเยอรมัน และนำมาดัดแปลงกลายเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ในปี 1959 โดย Ruth Handler ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่สตรีนิยมคลื่นลูกที่สองถือกำเนิดขึ้น โดยคลื่นลูกนี้มีแนวคิดเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางอาชีพและการเมืองของผู้หญิงในอเมริกา ทำให้บาร์บี้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้
จากจุดเริ่มต้นในปี 1959 ตุ๊กตาบาร์บี้เป็นภาพสะท้อนของยุคสมัย โดยตุ๊กตาตัวแรกเลียนแบบความเย้ายวนใจของดาราดังในยุค 1950 เช่น เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ และมาริลิน มอนโร โดยในปีแรกมียอดขายตุ๊กตาบาร์บี้ถึง 300,000 ตัว

ในปี 1960 บาร์บี้มาพร้อมกับชุดสูทธุรกิจสุดชิคและผลงานสเก็ตช์แฟชั่น ของกระจุกกระจิกสำหรับอาชีพด้านการออกแบบ ชื่อว่า BUSY GAL BARBIE (FASHION DESIGNER) และได้ส่งข้อความถึงสตรีนิยมดั้งเดิมถึงเด็ก ๆ และเริ่มสะท้อนให้เห็นถึงผู้หญิงที่มีพลัง ความสามารถที่หลากหลาย ผู้หญิงที่เลี้ยงตัวเองได้โดยไม่มีสามี
ในปี 1962 บาร์บี้มีบ้านในฝันเป็นครั้งแรก มากกว่าหนึ่งทศวรรษก่อนที่ผู้หญิงโสดส่วนใหญ่ในอเมริกาจะสามารถเป็นเจ้าของบ้านของตัวเองได้ ไม่ต้องพูดถึงบัญชีธนาคาร ผู้หญิงยังต้องได้รับความยินยอมจากพ่อและสามีเพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน แต่บาร์บี้ได้สร้างแรงกระเพื่อมในประเด็นเรื่องความเป็นอิสระทางการเงินและทางเพศของผู้หญิงไปอีกขั้น เมื่อบาร์บี้สามารถมีบ้านในฝันได้ แล้วทำไมสาว ๆ ถึงฝันที่จะมีทุกอย่างเป็นของตัวเองไม่ได้ล่ะ
ในปี 1965 บาร์บี้ได้ไปเหยียบดวงจันทร์ (พลาสติก) ก่อนที่ ‘นีล อาร์มสตรอง’ จะได้เหยียบดวงจันทร์เสียอีก ซึ่ง Astronaut Barbie ในปีนี้ได้ทำลายกำแพงแห่งอาชีพตั้งแต่นั้นมา เธอก็เป็นทุกอย่างตั้งแต่ แพทย์ นักบรรพชีวินวิทยา ร็อคสตาร์ ไปจนถึงวิศวกรคอมพิวเตอร์
ในปี 1968 บาร์บี้ผิวสีได้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรก ชื่อว่า “คริสตี้” มีรูปร่างแบบเดียวกับตุ๊กตาบาร์บี้ และ “แฟรนซี” ซึ่งมีหน้าอกแบนและสามารถสวมเสื้อผ้าดัดแปลงได้ โดยทั้งสองเป็นเพื่อนกับบาร์บี้ ทำให้เห็นว่าบาร์บี้เองไม่ได้เพิกเฉยต่อการเคลื่อนไหวทางสังคมใด ๆ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิพลเมือง และมีความหลากหลายมากขึ้น จนกระทั่งปี 1980 ตุ๊กตาบาร์บี้ละตินได้ถือกำเนิดขึ้น อีกทั้งในปีเดียวกันนั้นเอง ได้มีการเปิดตัวตุ๊กตาบาร์บี้นานาชาติชุดแรกจากทั้งหมดกว่า 40 ชุดมาจนถึงปัจจุบัน
ในปี 1985 ตุ๊กตาบาร์บี้มีจุดเปลี่ยนอีกอย่างหนึ่ง เมื่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ทำให้ผู้หญิงต้องเข้ามาทำงานมากขึ้น และตุ๊กตาบาร์บี้ก็เช่นกัน ได้มีการถือกำเนิด Day-to-Night Barbie ที่มีเอกลักษณ์เป็นชุดสูททรงพลังสีชมพู กระเป๋าเอกสาร เปลี่ยนเป็นชุดปาร์ตี้ได้ด้วยการถอดแจ็กเกตออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญโฆษณาตุ๊กตาบาร์บี้ “We Girls Can Do Anything” และ “Anything is possible as long as I try.” ล้อเลียนไปกับวลี work hard play hard ที่ใช้กับผู้ชายอีกด้วย
ในปี 1992 ‘President Barbie’ ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก บาร์บี้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทุกปีที่มีการเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี 1992 จนถึงปัจจุบันนับเป็น 7 ตัว ประธานาธิบดีบาร์บี้คนแรกมาพร้อมกับชุดเดรส ธีมธงชาติอเมริกัน สำหรับงานเลี้ยงเปิดตัวและชุดสูทสีแดงสำหรับทำหน้าที่ของเธอในห้องทำงานรูปไข่ ในปี 2016 ตุ๊กตาบาร์บี้ได้เปิดตัวตั๋วสำหรับหญิงล้วนพร้อมตุ๊กตาประธานและรองประธานาธิบดีเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้สาว ๆ เชื่อว่าพวกเขาสามารถเป็นอะไรก็ได้ รวมถึงผู้นำของโลกเสรีด้วย
2014 กับ Barbie style บาร์บี้กลายเป็นผู้มีอิทธิพลทางโซเชียลมีเดียด้วยการเปิดตัวบัญชี Instagram @barbiestyle บัญชีนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งวัฒนธรรมป๊อป และกลายเป็นช่อง Influencer เซอร์ด้านแฟชั่นชั้นนำอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่แฟชั่นและศิลปะ ไปจนถึงการเดินทางไปยังที่ต่างๆ
ในปี 2015 บาร์บี้เฉลิมฉลองให้กับผู้หญิงที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กผู้หญิงด้วยการทลายขอบเขตด้วย ตุ๊กตาที่ไม่ซ้ำใคร ถูกสร้างขึ้นสำหรับผู้ได้รับรางวัล (S)hero แต่ละคน อย่างเช่น Amelia Earhart, Frida Kahlo, and Katherine Johnson (of Hidden Figures fame) เพื่อทำให้เห็นว่าผู้หญิงทุกคนมีความแตกต่าง และสามารถเป็น Hero ได้เช่นกัน
ในปี 2023 The legacy of Barbie จากกระแสภาพยนตร์เรื่อง ‘Barbie’ โดย Greta Gerwig ทำให้บาร์บี้กลายเป็นหนึ่งใน feminist iconic และได้กลายเป็น ‘ผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก’ อันดับที่ 100 ของ Forbes ร่วมกับผู้นำ นักกิจกรรม และนักสร้างสรรค์อีก 99 ชีวิต
เพราะตุ๊กตาเด็กทารกอาจฝึกเด็กผู้หญิงให้เป็นแม่ แต่ก่อนที่จะมีตุ๊กตาบาร์บี้ของเล่น ไม่เคยมีการสนับสนุนให้ผู้หญิงได้จินตนาการว่าตัวเองสามารถเป็นอะไรได้บ้าง การมีอยู่ของบาร์บี้จึงได้นำไปสู่ยุคใหม่ของประวัติศาสตร์ตุ๊กตาและประวัติศาสตร์ของผู้หญิงอีกมากมาย
ในช่วงชีวิตของเธอ บาร์บี้ได้ประกอบอาชีพอื่น ๆ กว่า 200 อาชีพ โดยอาชีพที่หลากหลายของบาร์บี้เป็นแรงบันดาลใจให้นักสตรีนิยมรุ่นใหม่ต่อสู้เพื่อโอกาสในการทำงาน โอกาสที่ผู้หญิงจะเป็นในสิ่งที่ทำต้องการจะเป็น
แม้ว่าจะยอมรับหรือไม่ แต่บาร์บี้ก็เป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งและเป็นต้นแบบที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของใครหลายๆ คน
อ้างอิง
- https://www.history.com/news/barbie-through-the-ages
- https://www.businessinsider.com/barbie-dolls-most-valuable-sold-for-over-27000-dollar-collectables-2023-6#
- https://www.barbiemedia.com/timeline.html