บ้านอากู๋ / อากู๋ เหมทัศน์

สืบเนื่องจากกรณีที่เพื่อนบ้านลักลอบเข้าไปใช้พื้นที่บริเวณบ้านของ ‘อากู๋ เหมทัศน์’ จนนำไปสู่การฟ้องร้องและกลายเป็นไวรัลอยู่ช่วงหนึ่งในโซเชียลมีเดีย กระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อหนึ่งในคู่กรณีทำการอัตนิวิบากกรรมตนเอง ก่อนวันเรียกนัดฟังคำสั่งศาลเพียง 1 อาทิตย์

วันนี้จึงอยากพาทุกคนร่วมย้อนรอยคดีครอบครองปรปักษ์ ‘บ้านอากู๋’ เปิดไทม์ไลน์ว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร และมีแนวโน้มว่าจะจบลงแบบไหน รวมถึงการตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นเรื่องศีลธรรมความเป็นมนุษย์และบริบททางกฎหมาย ซึ่งถือว่าน่าสนใจและชวนให้ขบคิดกันต่อ

ปี พ.ศ. 2534

อากู๋ เหมทัศน์ ซื้อบ้านในซอยรามอินทรา 58 แยก 6-2 แต่ไม่ได้เข้าอยู่เป็นเวลาหลายปี ซึ่งระหว่างระยะที่อากู๋ไม่ได้เข้ามาที่บ้านก็เกิดน้ำท่วมครั้งใหญขึ้น ทำให้เพื่อนบ้านอาสาเข้ามาช่วยตัดต้นไม้และทำความสะอาด ซึ่งต่อมาเริ่มมีการเข้ามาใช้พื้นที่บริเวณบ้านของอากู๋ในการจอดรถ เก็บของ รวมถึงมีการต่อเติมให้บริเวณบ้านของตนเชื่อมกับบ้านของอากู๋

31 สิงหาคม 2566

ซัน หลานชายของอากู๋ได้รับบ้านของอากู๋เป็นของขวัญในวันแต่งงาน แต่กลับพบว่าเพื่อนบ้านเข้ามาบุกรุกพื้นที่ อากู๋และหลานชายจึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบ้าน พร้อมเจรจาขอร้องให้เพื่อนบ้านย้ายออกจากพื้นที่ของตน แต่ฝ่ายเพื่อนบ้านกล่าวว่า ตนพยายามติดต่อเพื่อขอเช่าและขอซื้อหลายครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อเจ้าของบ้านได้ ประกอบกับตนมีการลงทุนปรับปรุงและดูแลพื้นที่บ้านให้ดีขึ้น แต่สุดท้ายเพื่อนบ้านก็ยอมย้ายข้าวของออกไป

17 กันยายน 2566

หลังจากเพื่อนบ้านย้ายของออกไป ซันซึ่งเป็นหลานชายของอากู๋ได้เข้าไปทำการเปลี่ยนกุญแจและล็อกบ้าน แต่พบว่าเพื่อนบ้านคนดังกล่าวได้ย้ายข้าวของกลับเข้ามาอยู่ภายในบริเวณบ้านอีกครั้ง ทางฝ่ายของซันจึงขอเจรจาอีกรอบ ซึ่งทางฝ่ายเพื่อนบ้านก็ยินยอมที่จะเก็บของออกไปอีกครั้ง พร้อมขอเสนอซื้อบ้านในราคา 1 ล้านบาท แต่ซันยืนยันว่าไม่ยอมขายอย่างแน่นอน

22 พฤศจิกายน 2566

เพื่อนบ้านยื่นฟ้องเจ้าของบ้าน โดยอ้างว่าเป็นการ ‘ครอบครองปรปักษ์’ ซึ่งเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ คือการครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้ด้วยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี บุคคลนั้นจะได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น

6 มกราคม 2567

หลังจากซันได้รับหมายศาลจากเพื่อนบ้านในดคีฟ้องร้องครอบครองปรปักษ์ ทางฝั่งของซันจึงยื่นฟ้องทางฝั่งเพื่อนบ้านกลับทันที

8 กุมภาพันธ์ 2567

เพื่อนบ้านได้ย้ายกลับเข้าไปในบ้านของอากู๋อีกครั้ง พร้อมแปะป้ายไวนิลที่ระบุข้อความว่า “บ้านหลังนี้ข้าพเจ้าได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย บุคคลใดเข้ามากระทำการใด ๆ ในบ้านและที่ดินและบ้านหลังนี้ ถือว่ามีความผิดฐานบุกรุก จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน” และลงชื่อ – นามสกุล

13 กุมภาพันธ์ 2567

ทนายเดชาและทีมงานเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.โครกคราม เพื่อลงบันทึกประจำวัน พร้อมขอให้ตำรวจเข้าไปตรวจค้นเพื่อเก็บหลักฐาน เมื่อพนักงานสอบสวนเข้าตรวจสอบพบกับโต๊ะและอุปกรณ์ทำครัวอยู่ด้านใน จากนั้นจึงมีการปลดป้ายไวนิลออก และนำเอาป้ายที่ระบุข้อความว่า “พื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาตหรือเข้ามากระทำการใด ๆ ทั้งสิ้นหากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”

16 กุมภาพันธ์ 2567

พนักงานสอบสวนนำตัวเพื่อนบ้านพร้อมพวกอีก 5 คน ส่งสำนวนต่ออัยการพิเศษ โดยมีความเห็นสั่งฟ้องข้อหาบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ ด้านซันและทนายความเข้าพบอัยการพิเศษเพื่อยื่นหนังสือขอคัดค้านการประกันตัว เพราะฝ่ายคู่กรณีมีพฤติกรรมบุกรุกซ้ำซ้อนหลายครั้ง ซึ่งอัยการพิเศษจะใช้เวลาพิจารณาสำนวนไม่เกิน 1 เดือน เนื่องจากคดีไม่ได้ซับซ้อนมาก โดยอัยการนัดฟังคำสั่งในวันที่ 6 มีนาคม 2567 หรือในอีกประมาณเกือบ 1 เดือนข้างหน้า

26 กุมภาพันธ์ 2567

เพื่อนบ้านหรือคู่กรณีของซันเกิดอาการเครียดและทำการอัตนิวิบากกรรมตนเอง โดยการใช้ผ้าขนหนูผูกคอกับประตูห้องน้ำ ก่อนที่ทางทนายความของซันและอากู๋จะรับรู้ในเวลาต่อมา ซึ่งซันและอากู๋เมื่อรู้ข่าวก็รู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามรายงานผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของทนายความ

หลังจากเกิดข่าวการเสียชีวิตของเพื่อนบ้านคู่กรณีซัน ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันในโซเชียลมีเดียแตกออกเป็น 2 ฝั่ง บ้างก็ว่าทางฝ่ายบ้านอากู๋และทนายความกดดันคู่กรณีเกินไป จนนำไปสู่ความสูญเสีย แต่อีกฝ่ายเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของอากู๋ เพราะทั้งหมดดำเนินอยู่บนลู่ทางของกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ผู้คนบางส่วนเห็นว่าทนายความของทั้งสองฝ่าย รวมถึงผู้คนในโลกโซเชียลมีเดียต่างหากที่เป็นคนกดดันคู่กรณีให้เกิดความเครียด

อย่างไรก็ตามไม่มีใครสมควรตาย ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรต้องมีใครรู้สึกผิดในการทำตามข้อบริบทกฎหมาย แต่ปัจจัยภายนอกที่เข้ามามีบทบาท เช่น สื่อหรือผู้คนในสังคม ควรรู้ว่าขอบเขตของ ‘ผู้นำเสนอ’ และ ‘ผู้เสพ’ สามารถทำหรือออกความคิดเห็นได้ขนาดไหน เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าภาพที่เราถ่าย ข่าวที่เราเขียน ข้อความที่เราแสดงความคิดเห็นจะฆ่าใครได้บ้าง

บ้านอากู๋ / อากู๋ เหมทัศน์

CREATED BY

ไม่ชอบคนข้างล่าง