เชื่อว่าหลายคนรู้สึกว่าการทำงานหนักเป็นเวลานาน ไม่บั่นทอนชีวิตและจิตใจเท่ากับการเจอคนแย่ ๆ ทุกวัน เพราะการจัดการกับภาระงานคือการต่อสู้กับโปรเจกต์ที่ผ่านมาแล้วจะผ่านไปในอีกไม่นาน แต่การจัดการกับผู้คนคือการต่อสู้กับอารมณ์และมนุษย์ ซึ่งกินเวลานานตราบเท่าที่คุณยังนั่งอยู่ตรงนั้นหรือทำงานที่นั่น สมมติว่ามีงานหนึ่งร้อยชิ้นให้คุณทำกับนั่งอยู่เฉย ๆ ในห้องที่มี ‘คนประสาท’ อยู่ในนั้นหนึ่งร้อยคน คุณจะเลือกทำอะไร
งานวิจัยจากแพทย์ที่ดูแลเกี่ยวกับโรคหัวใจ Dr. Dagmar Andersson ได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากผู้ป่วยโรคหัวใจจำนวน 500 คน แล้วพบว่าผู้ป่วยกว่า 62% ไม่มีภาวะทางกายที่สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ทว่าภาวะทางอารมณ์ของพวกเขาได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากผู้ป่วยโดยส่วนใหญ่มีปัญหาร่วมกันอย่างหนึ่งคือ ปัญหาการทำงานกับเพื่อนร่วมงานนิสัยแย่ ๆ ซึ่งพวกเขาเกิดอาการหัวใจวายขึ้นภายใน 12 ชั่วโมง หลังเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ปะทะทางอารมณ์กับเพื่อนร่วมงาน
โดย Dr. Dagmar ได้หยิบยกบางเคสมาเล่าให้ฟังว่า ผู้หญิงคนหนึ่งต้องรีบไปโรงพยาบาลหลังจากที่ผู้ช่วยของเธอทำลายเอกสารภาษีที่สำคัญของบริษัท แทนที่จะถ่ายเอกสารเก็บไว้ หรือเคสที่แปลกที่สุดคือชายคนหนึ่งล้มลงบนโต๊ะทำงาน เพราะผู้หญิงที่นั่งโต๊ะถัดไปเอาแต่ร้องขอน้ำยาลบคำผิด เพื่อนำไปลบคำผิดบนจอคอมพิวเตอร์ของเธอ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเพื่อนร่วมงานแย่ ๆ มีผลกระทบทั้งต่อการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คน

นอกเหนือจากคนแปลก ๆ แล้ว พวกเจ้านายที่ชอบระเบิดอารมณ์โมโหใส่ลูกน้องก็มีผลกระทบเป็นอย่างมากต่อการทำงานและสุขภาพจิตในระยะยาว Dr. Dagmar กล่าวว่า คุณอาจเลิกสูบบุหรี่หรืองดดื่มแอลกอฮอล์ไปพร้อม ๆ กับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ได้ แต่คุณไม่สามารถลบหัวหน้าขี้โมโหหรือเพื่อนร่วมงานนิสัยแย่ออกจากชีวิตได้ มันเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพที่ไม่สามารถควบคุมได้
วิธีการแก้ปัญหาที่พอเป็นไปได้คือ ค้นหาต้นตอของปัญหาที่แท้จริงจากนั้นเริ่มแก้ด้วยการพูดคุยกันอย่างเข้าใจ บางครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะทีมหรือหน่วยงานขาดการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีใครกล้าบอกว่าตนเองกำลังประสบปัญหาอะไร และไม่มีใครรู้ว่าอีกคนกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาอะไรบ้าง ดังนั้นการหาเวลาพูดคุยกันให้มากขึ้นจึงเป็นหนึ่งในทางแก้ไขปัญหาที่ง่ายที่สุด นอกจากนี้เลือกที่จะคุยเรื่องอื่นบ้างนอกจากเรื่องงาน เช่น งานอดิเรกที่ชอบทำ อาหารที่ชอบกิน เพลงที่ชอบฟัง หนังที่ชอบดู รวมถึงพยายามเป็นเพื่อนร่วมโลกที่ดีให้กันและกัน แม้ว่าบางครั้งจะเป็นการสวมหน้ากากเข้าหากันก็ตาม
เพราะเราไม่อาจเลือกเพื่อนร่วมงานที่ตรงใจเราได้ทุกที่ มนุษย์ทุกคนล้วนมีความหลากหลาย อันมีสาเหตุมาจากการสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาและการอบรมเลี้ยงดู ซึ่งทั้งหมดประกอบสร้างออกมาเป็นคนที่ดีบ้าง เลวบ้าง เห็นแก่ตัวบ้าง ใจดีบ้าง โมโหร้ายบ้าง แต่สิ่งที่แน่นอนคือไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ เราต่างดำรงอยู่บนความแหว่งวิ่นของกันและกัน ดังนั้นการรู้ใจเขาใจเราจึงสำคัญที่สุด อย่างน้อยก็ไม่เป็นตัวการให้ใจของใครอีกคนแหลกสลาย
