โดนัลด์ ทรัมป์, Donald Trump, WWE, World Wrestling Entertainment, มวยปล้ำ, WWE Hall of Fame, เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ, เลือกตั้งสหรัฐ 2024

ต้อนรับการเลือกตั้ง “ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ 🇺🇸” ที่กำลังใกล้เข้ามาถึงแล้วในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ระหว่าง 2 ผู้สมัครเลือกตั้ง อย่าง รองประธานาธิบดี “กมลา แฮร์ริส” ตัวแทนจากพรรค “เดโมแครต” และอดีตประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ตัวแทนจากพรรค “รีพับลิกัน” 🇺🇸🦅

การฟาดฟันนโยบายของปัญหาจากประเด็นต่าง ๆ ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จะชี้ชะตาหนึ่งเดียวจาก 2 พรรคเลือกตั้งที่จะได้เข้าไปนั่งเก้าอี้ใน “ทำเนียบขาว” เป็น “ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของอเมริกา” โดยสิทธิ์โหวตจากประชาชนชาวอเมริกันที่จะส่งผลต่ออนาคตของประเทศ และอาจส่งผลกระทบต่อทั่วทั้งโลกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกา 🇺🇸

สำหรับวงการกีฬาเองก็มีฐานเสียงมุมมองทางการเลือกตั้งต่อประธานาธิบดีคนใหม่ที่แตกต่างกันออกไป โดยวงการกีฬาของสหรัฐฯ ฐานเสียงที่มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในครั้งนี้ หนีไม่พ้นวงการมวยปล้ำ อย่าง “WWE” หรือสมาคม “Wrestling World Entertainment” ที่สนับสนุนทาง “ทรัมป์” เป็นส่วนใหญ่ 

หากใครที่เป็นแฟนมวยปล้ำ WWE จะรู้ว่าทรัมป์มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากต่อวงการนี้ เขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์สำคัญมากมายของ WWE โดยเฉพาะในศึกพิเศษ “The Battle of the Billionaires” หรือ “ศึกของมหาเศรษฐี” ระหว่างตัวเขาและประธานค่าย อย่าง “วินซ์ แมคมาฮอน” 💸

เรื่องราวของทรัมป์ในสังเวียน WWE มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก และยังมีอีกหลายด้านที่คนทั่วไปอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับตัวตนของทรัมป์ นอกเหนือไปจากบทบาทของนักธุรกิจและนักการเมืองสุดโต่ง การแสดงตัวตนด้านความบันเทิงที่ทรัมป์ได้เคยโชว์มาแล้วใน WWE เขาแสดงออกในอีกมุมมองที่ใครก็อาจไม่คาดคิดว่าอดีตประธานาธิบดีสุดห้าวหาญคนนี้จะเคยมีตัวตนแบบนี้ได้ 🇺🇸

“ทรัมป์ พลาซ่า” จุดเชื่อมโยงระหว่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” และ “WWE”

“โดนัลด์ ทรัมป์” อาจถูกรู้จักกันทั่วโลกจากการดำรงตำแหน่ง “ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ” แต่สำหรับชาวอเมริกันรู้จักเขาในฐานะของนักธุรกิจระดับ “เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์” ที่มีความสุดโต่งหุนหันพลันแล่นอย่างสุดขั้ว ซึ่งหนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ของทรัมป์ที่ใครก็รู้จักคือ “ทรัมป์ พลาซ่า” รีสอร์ตสุดหรูหราและคาสิโนสุดอลังการในย่าน “แอตแลนติกซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์” ที่เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1984 สามารถดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวและจ้าวพนันนักเสี่ยงดวงจากทั่วโลกให้มารวมตัวกันอยู่ที่นี้

ด้วยภาพลักษณ์ที่โดดเด่นด้านความเป็นสถานความบันเทิงครบวงจร ทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงต่าง ๆ เลือกให้ที่แห่งนี้เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง และการจัดงานอีเวนต์กีฬาต่าง ๆ โดยเฉพาะกีฬาด้านการต่อสู้และความบันเทิง นั่นคือจุดเริ่มต้นของทรัมป์ใน WWE เมื่อทางสมาคมจะมีอีเวนต์ใหญ่สุดอย่าง “WrestleMania” เป็นโชว์มวยปล้ำใหญ่ที่สุดประจำปีของ WWE โดยในปี 1988 และ 1989 เป็น 2 ปีติดที่พวกเขาเลือกทรัมป์ พลาซ่าเป็นสถานที่จัดโชว์การแข่งขันในปีดังกล่าว

ช่วงนั้นทรัมป์มีส่วนเป็นเพียงแค่การเป็นผู้สนับสนุน ผู้ลงทุน และจัดสถานที่ให้กับการแข่งขันนี้ นั่นจึงเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เขาเริ่มเชื่อมโยงตัวเองร่วมกับทางสมาคมด้วยความสัมพันธ์อันดีต่อกันและกัน โดยทรัมป์มีวิสัยทัศน์ในการมองผลประโยชน์นี้เป็นการเพิ่มมูลค่าทาง “แบรนด์” หรือภาพลักษณ์ของเขา และอาจเป็นพื้นที่ที่เขาสามารถโปรโมตการตลาดได้ผ่านสื่อโดยมี WWE เป็นฐานสำคัญต่อตัวเขา

“ศึกมหาเศรษฐี” ที่ทำให้แฟนมวยปล้ำรู้จัก “โดนัลด์ ทรัมป์” มากขึ้น

ในปี 2007 ประธานและผู้ก่อตั้ง WWE “วินซ์ แมคมาฮอน” ต้องการสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจของโชว์ความบันเทิงบนสังเวียนเพื่อปูทางไปสู่ WrestleMania ครั้งที่ 23 โดยต้องการคอนเซ็ปต์ที่ว่าตัวของเขาต้องประชันศึกกับคนดังที่มีชื่อเสียง สร้างปมปัญหาความขัดแย้งเป็นเรื่องราวนำไปสู่สังเวียนประจำปีนั้น

แมคมาฮอนพบว่าผู้ที่จะเข้ามาดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นวงกว้าง แล้วเห็นว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” เป็นคนที่เหมาะสมอย่างมากในการขึ้นสังเวียนมวยปล้ำกับเขา เพราะแมคมาฮอนถูกปูใน WWE ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลและร่ำรวยอย่างมากของสมาคม การนำทรัมป์ที่ตอนนั้นเป็นนักธุรกิจสุดห้าวและมีตัวตนชอบท้าทายด้วยควมมั่นใจสูง แมคมาฮอนเชื่อว่าศึกนี้เป็นศึกมหาเศรษฐีที่น่าสนใจในชื่อว่า “The Battle of the Billionaires”

ทำให้ศึก WrestleMania 23 ในปี 2007 ที่สนาม “ฟอร์ด ฟิลด์” เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน จึงเกิดอีกเรื่องราวที่น่าสนใจ โดยมีการนำเสนอในเรื่องราวของ 2 บุคคลที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงหรือก็คือมี “อีโก้” มากเกิน โดยต่างฝ่ายต่างสร้างความขัดแย้งสะสม เป็นเนื้อหาที่ทำให้พวกเขาต้องสู้กันใน WrestleMania ครั้งนี้

โดยโชว์ดังกล่าวจะมีรูปแบบของการเดิมพันที่น่าสนใจ หากใครที่พ่ายแพ้จะถูกโกนหัวออกอากาศสด เป็นการแสดงที่บ้าระห่ำเพราะต้องมีคนต้องเสียหน้าต่อสาธารณะ มีผู้สนใจในเหุตการณ์นี้เป็นจำนวนมาก เพื่อรับชมมุมมองที่แตกต่างของผู้มีฐานะอันดับต้น ๆ ของประเทศ เหมือนเป็นการได้ชมคนรวยตีกันโดยที่มีคนติดตามทั่วทุกมุมโลก

สำหรับวิธีการปล้ำก็จะให้แมคมาฮอนและทรัมป์ได้คัดเลือกนักมวยปล้ำเพื่อมาต่อสู้กันบนเวทีแทนตัวเอง โดยทรัมป์ได้เลือก “บ็อบบี แลชลีย์” ส่วนแมคมาฮอนเลือก “อูมากา” เป็นตัวแทนในการขึ้นปล้ำในศึกนี้ เพื่อให้เกิดอรรถรสแก่การรับชม ได้มีการเชิญกรรมการพิเศษคือซูเปอร์สตาร์ของค่าย อย่าง “สตีฟ ออสติน” หรือที่รู้จักกัน “สโตน โคลด์” มาร่วมเป็นสักขีพยานการแข่งขัน ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มเรตติงของการติดตามให้สูงมากยิ่งขึ้น

ท้ายที่สุด ชัยชนะก็จบลงด้วยการชนะของแลชลีย์ ตัวแทนจากทรัมป์ ส่งผลให้แมคมาฮอนจำเป็นต้องถูกโกนหัวต่อหน้าสาธารณชนกลายเป็นอีกหนึ่งในเหตุการณ์น่าจดจำครั้งหนึ่งที่ประธานค่ายอย่างแมคมาฮอนได้เสียโฉมให้กับคนโด่งดังอย่างทรัมป์ และทำให้หลายคนได้จดจำทรัมป์ในมุมมองที่นอกเเหนือจากความก้าวร้าว เป็นรูปแบบที่ผ่อนคลายและดูเฮฮาจากการได้มาเข้าร่วมในศึกครัั้งนี้

หนึ่งในความภาคภูมิใจของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในการได้รับ “WWE Hall of Fame”

“WWE Hall of Fame” ถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลทรงคุณค่า หรือที่รู้จักกันว่า “หอเกียรติยศ” ที่มอบให้กับผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อสมาคมมวยปล้ำ WWE  ในปี 2013 โดนัลด์ ทรัมป์ได้เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้เข้าร่วมบทบาทสำคัญให้กับสมาคมในฐานะ “เซเลบริตี (Celebrity)” หรือ “ผู้มีชื่อเสียง” ในการรับเชิญของ WWE

แน่นอนว่าจุดเริ่มต้นจากการเป็นผู้มีส่วนต่อการเข้ามาใช้สถานที่ในการจัด WrestleMania ถึง 2 ครั้ง และยังเป็นผู้อำนวยการบริการให้กับโชว์การแข่งขันในช่วงแรก ทำให้เกิดความประทับใจต่อบรรดาแฟนมวยปล้ำที่ยังคงจดจำความศิวิไลซ์จากการแข่งขันครั้ง 4 และ 5 ของศึกนี้ที่ทรัมป์ พลาซ่า ตลอดจนการเข้ามาสร้างสีสันร่วมกับแมคมาฮอนในศึกประชันคนรวย The Battle of the Billionaires ใน WrestleMania 23 ก็ได้สร้างความฮือฮาและการจดจำอันดีของแฟนมวยปล้ำต่อหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญของศึกมวยปล้ำครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้มีคนจำนวนมากได้รู้จักทรัมป์ผ่านศึกนี้

ด้วยรางวัลที่ทรัมป์ได้รับส่งผลให้เขาได้กลายเป็นตัวแทนของวงการบันเทิงและการบุกตลาดมายาจากความสำเร็จที่เขาได้ทำมาแล้วใน WWE ทำให้เขาได้เป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลจากหลายวงการ โดยเฉพาะในวงการมวยปล้ำที่เขามีความสัมพันธ์อันดีต่อนักมวยปล้ำหลายคนจากในสมาคม และถึงแม้ว่าทรัมป์จะถูกมองในมุมของชายสุดระห่ำ การกระทำที่แสนสุดโต่ง แต่ในมุมหนึ่งที่เขาเคยได้มอบความสุขให้กับวงการมวยปล้ำก็อาจทำให้เราได้เห็นอีกด้านของชายคนนี้

หากใครที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้คุณคิดเห็นอย่างไรกับทรัมป์ก่อนศึกการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น มุมมองของทุกคนที่มีต่อทรัมป์ถูกจดจำในด้านใดบ้าง หรือคุณเคยติดตามเขาในเหตุการณ์ The Battle of the Billionaires แล้วหรือยัง ฝากแลกเปลี่ยนความทรงจำเกี่ยวกับชายร่างใหญ่คนนี้กัน

อ้างอิง