อุจิวะ ซาสึเกะ, นารูโตะ นินจาจอมคาถา

ในโลกของการ์ตูนญี่ปุ่นไม่ว่าจะใน ‘มังงะ (ภาพวาด)’ หรือ ‘อนิเมะ (ภาพยนตร์)’ หนึ่งในตัวละครชื่อดังที่เกิดในวันที่ 23 กรกฎาคมอย่าง ‘อุจิวะ ซาสึเกะ’ พระรองของการ์ตูนนินจาสุดดังอย่าง ‘นารูโตะ นินจาจอมคาถา’

โดยการ์ตูนเรื่องนี้ขับเคลื่อนผ่านตัวละครพระเอกอย่าง ‘อุซึมากิ นารูโตะ’ ที่เติบโตในวิถีนินจาของตัวเองจากความพยายามและมุ่งมั่น เพื่อจะเป็นที่ยอมรับจากผู้คน ซึ่งสวนทางกับเพื่อนที่เติบโตมา อย่าง ซาสึเกะ ผู้ที่เป็นอัจฉริยะแต่เติบโตจากความแค้นที่มีต่อพี่ชายของตัวเอง ที่เขาได้สังหารครอบครัวและคนในตระกูลต่อหน้าซาสึเกะในวัยเยาว์

เหตุนี้ทำให้ตัวละครอย่างซาสึเกะใช้ความแค้นในการดำเนินเรื่องราวของตัวละคร โดยตลอดเนื้อหาของการ์ตูนเรื่องนี้ เราจะเห็นปมปัญหาต่าง ๆ ของตัวละคร และซาสึเกะนอกจากจะเป็นที่นิยมจากความหล่อเหลาของตัวละครแล้ว เส้นทางที่เกิดขึ้นหากใครที่ได้ดูจนจบแล้วจะเข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว ซาสึเกะก็มีเหตุผลที่ทำให้เขาเป็นแบบนั้น!!

และการเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครนี้เอง มันก็ทำให้เห็นถึงปัญหาที่มีต้นตอจากความแค้นที่ก่อเกิดได้ในสังคม โดยในความแค้นที่ถูกสะสมจากวัยเด็กอาจนำพาไปสู่การสร้างปัญหาที่ตามมาได้เมื่อพวกเขาเหล่านั้นเติบโต โดยมีเป้าหมายที่จะล้างแค้นต่าง ๆ

วันนี้ เราจะพาไปเรียนรู้เรื่องราวความแค้นผ่านตัวละครอย่างซาสึเกะ เพื่อให้เข้าใจถึงที่มาว่าเหตุปัจจัยที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีอิทธิพลในการดำเนินเรื่องที่ผ่านความเลวร้ายต่าง ๆ นำไปสู่เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในเรื่องนินจาจอมคาถาที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ติดตามมากมายทั่วโลก หากใครที่ยังไม่เคยได้ตามก็สามารถเรียนรู้พร้อมกันได้ที่นี้

เปิดปมแค้นของตัวละคร ‘อุจิวะ ซาสึเกะ’

อย่างที่หลายคนทราบ หากใครที่ได้ตามนินจาจอมคาถา เหตุที่ทำให้ซาสึเกะเริ่มกลายเป็นผู้เย็นชาและเงียบครึม ทั้งหมดเกิดจากพี่ชายของเขา ‘อุจิวะ อิทาจิ’ อดีตเด็กหนุ่มอัจฉริยะที่ได้ทำการล้างฆ่าคนในตระกูลตัวเองอย่าง ‘อุจิฮะ’ และสังหารบิดา มารดา ผ่านการพบเห็นคาตาของน้องชายตัวเอง สร้างบาดแผลทางใจอย่างมากให้กับซาสึเกะตอนเด็ก

ก่อนเกิดเหตุการณ์นี้อิทาจิคือพี่ชายผู้อ่อนโยนและความภูมิใจของคนในตระกูล รวมไปถึงซาสึเกะที่รักในพี่ชายคนนี้เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุบางอย่างที่อิทาจิต้องแบกรับ เขาค่อย ๆ ทำภารกิจสังหารคนในตระกูล เนื่องจากผลทางการเมืองในหมู่บ้านโคโนฮะ ทำให้คนในตระกูลมีความคิดที่จะกบฎต่อหมู่บ้านทำให้อิทาจิต้องกระทำในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้

หนึ่งในประโยคคลาสสิคที่อิทาจิผู้พี่ฝากไว้ให้เขาคือ ‘..ถ้าอยากฆ่าฉันนัก ก็จงเคียดแค้นฉัน ชิงชัง มีชีวิตต่อไปอย่างน่าสังเวช และเมื่อนายมีเนตรได้เหมือนกับฉัน ก็ฆ่าฉันซะ..’ บาดแผลทางวาจาที่พี่ชายได้ฝากไว้ หล่อหล่อมให้ซาสึเกะใช้ด้านมืดดำเนินชีวิต และสร้างเป้าหมายที่จะแกร่งขึ้น เพื่อฆ่าคนที่เขาเกลียดมากที่สุด

ที่มาผ่านตระกูล แข็งแกร่งได้ด้วยความอ่อนไหวในความรัก

หนึ่งในพลังที่ยิ่งใหญ่ของตระกูล ‘อุจิวะ’ คือการเบิกพลังเนตรที่ชื่อว่า ‘เนตรวงแหวน’ ดวงตาสีแดงที่ถ่ายทอดผ่านประสาทสมองนำไปสู่การใช้พลัง โดยคุณสมบัติของวิชานี้หากเบิกเนตรได้จะสามารถอ่านความเคลื่อนไหว สร้างภาพลวงตา ขโมยกระบวนท่าศัตรู และหากยิงสะสมพลังของเนตรมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้การโจมตีต่อศัตรูยิ่งสร้างความรุนแรงได้มากขึ้น

แต่พลังนี้มันไม่ได้ก่อเกิดขึ้นผ่านการฝึกฝน แต่มันเกิดขึ้นเฉพาะตระกูลนี้ เพียงเพราะว่าพวกเขาคือตระกูลต้องสาปที่เข้าใจในความรักมากกว่าสิ่งใด ผู้ที่กล่าวข้อมูลนี้คือ ‘โฮคาเงะรุ่นที่ 2’ เซนจู โทบิรามะ ที่ได้กล่าวในช่วงสงครามนินจาของเรื่อง แม้ว่าเขาจะเกลียดตระกูลนี้มากเพราะตระกูลเซนจูและอุจิวะเป็นอริกันมายาวนาน และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อน้องชายของเขาถูกตระกูลต้องสาปสังหารในตอนเด็กยิ่งทำให้เขาแค้นใจกับอุจิวะเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อเทียบกับคนในอุจิวะ หากการสูญเสียเกิดขึ้นกับคนในตระกูล พลังของพวกเขาจะยิ่งทวีคูณความน่ากลัว และอาจเป็นภัยร้ายต่อโลกนินจาในเรื่องได้ อย่างที่ตัวร้ายของเรื่อง อย่าง ‘อุจิวะ มาดาระ’ เคยทำเอาไว้ในอดีต เหตุนี้อาจทำให้คนในอุจิวะจะแข็งแกร่งมากขึ้นได้ก็ต่อเมื่อความรักของพวกเขาถูกกระทำชำเราจิตใจ แทนที่ความบั่นทอนจะนำไปสู่ความอ่อนแอ กลับกลายเป็นเพิ่มพลังความแค้นให้พวกเขายิ่งแกร่งมากขึ้น

ผ้าขาวที่แปดเปื้อน ยิ่งแค้น ยิ่งเกินเยียวยา เพราะความเข้าใจผิด

หากใครที่ได้ตามจะรู้ว่าซาสึเกะสามารถปิดฉากอิทาจิลงได้ พร้อมทั้งปมปริศนาที่ยิ่งทำให้เรื่องราวยิ่งเข้มข้นขึ้น เมื่อตัวละครร้ายอีกคนอย่าง ‘โทบิ’ หรือ ‘อุจิวะ โอบิโตะ’ ซึ่งก็มีเรื่องราวความแค้นเฉกเช่นเดียวกับซาสึเกะ และยังเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้นารูโตะมีพลัง อย่าง ‘จิ้งจอกเก้าหาง’

โดยโอบิโตะเล่าความจริงของที่มาว่าอิทาจิทำทุกอย่างลงไป เพื่อปกป้องหมู่บ้านและเป็นคำสั่งจากระดับผู้นำหมู่บ้านให้ทำสิ่งเหล่านี้ และอิทาจิจะไม่สังหารน้องชายที่ตัวเองรัก เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจึงทำให้เขาเลือกหมู่บ้านมากกว่าตระกูล โดยมีข้อแม้ว่าซาสึเกะจะปลอดภัยกับโคโนฮะ และเขาจะคอยคุ้มครองหมู่บ้านในฐานะคนนอกหมู่บ้าน

และที่ต้องพูดกับซาสึเกะแบบนั้นไปเพื่อให้เขาได้แข็งแกร่งขึ้นและเป็นนินจาที่เก่งกาจ เพราะตอนนั้นซาสึเกะยังพึ่งพาตามรอยเขา การสร้างปมนี้อาจทำให้น้องชายของเขาเข้าถึงพลังได้ดียิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะผิดหรือถูกในการตัดสินใจ ในที่สุดก่อนที่จะตายเขาได้ช่วยหลายสิ่งกับซาสึเกะเอาไว้ ยิ่งทำให้ซาสึเกะรู้สึกผิดในความจริง แต่พลังที่ควรจะถูกนำไปใช้อย่างถูกต้อง กลายเป็นซาสึเกะที่ยังคงเข้าใจผิดต่อเจตนาที่อิทาจิทำไว้ และเลือกจะล้างแค้นโคโนฮะที่สร้างปมให้กับพี่ชายตนเอง ยิ่งทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามว่าเขาจะทำอะไรต่อไปในเนื้อเรื่อง

โชคยังดีในช่วงก่อนต่อสู้กันระหว่างสองพี่น้อง อิทาจิได้พบกับนารูโตะที่กำลังตามจับซาสึเกะและได้ถามคำถามสำคัญที่มีผลต่อเนื้อเรื่อง ‘ถ้าวันหนึ่งซาสึเกะเกิดถล่มโคโนฮะขึ้นมา เธอจะทำอย่างไร หากบางทีก็ต้องถูกให้เลือกสักทาง? จะหยุดเขาได้หรือเปล่าล่ะ?’ คำถามจากความจริงของอิทาจิที่อยากรับรู้จากนารูโตะ เพราะเขาเองก็เคยผิดพลาด

แต่ด้วยความเป็นพระเอกรวมไปถึงวิถีนินจาที่พร้อมจะแบกรับภาระเอาไว้ด้วยความสัตย์จริง อิทาจิถึงเชื่อมั่นในตัวนารูโตะ ว่าจะเป็นคนที่นำพาซาสึเกะไปในทางที่ถูกต้อง และไม่ผิดพลาดแบบที่เคยเกิดขึ้นกับเขามาแล้ว

นั่นจึงทำให้เรื่องราวที่ทำให้ซาสึเกะแม้จะเติบโตด้วยพลังความแค้น แต่สามารถเข้าใจในสิ่งที่พี่ชายของเขาทำลงได้ ด้วยเพื่อนแท้ที่อยากช่วยให้เขาไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง แม้จะมีช่วงที่ผ้าขาวต้องแปดเปื้อนไปด้วยความเกลียดชังก็ตามที

ในสังคมก็ล้วนเกิดความแค้น เพราะรักที่มีแบบซาสึเกะ

สุดท้ายนี้หากเรามาพิจารณาต่อความแค้นที่เกิดขึ้น มันอาจเป็นพลังทางจิตอย่างหนึ่งที่ช่วยทำให้เกิดการกระทำที่ตอบโต้ในสิ่งที่ผิดไปจากความเป็นจริง แน่นอนว่ามันจะถูกสะสมทีละเล็กทีละน้อยไม่ต่างกับการฝึกทักษะต่าง ๆ ที่ทำให้เรามีความสามารถที่มากขึ้นได้

โดยต้นตอของความแค้นจะก่อเกิดขึ้น หากกับวัยที่ยังไร้เดียงสา การเติบโตที่ต้องการในความรัก พยายามเพื่อให้ได้การยอมรับหรือภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำ ยิ่งถูกขัดขวางหรือขัดแย้งมากเท่าใด ยิ่งทำให้จิตส่วนลึกสร้างปมบางอย่างขึ้น และค่อย ๆ ตกตะกอนเป็นหนทางสู่การล้างแค้น อย่างที่เกิดขึ้นกับซาสึเกะ

มีวิจัยที่ว่าเด็กที่ต้องการความรักจะเกิดความแค้นขยายใหญ่ขึ้นเพื่อแย่งชิงนำสิ่งที่สำคัญเข้ามา หากได้รับความเจ็บปวดมากเท่าใด ก็ยิ่งตอบโต้การกระทำเหล่านั้นที่สะสม อาจนำไปสู่การก่อเหตุที่เลวร้ายขึ้นได้ และกลายเป็นปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นได้โดยปกติในสังคม

เพราะในโลกจริง คนที่เป็นได้แบบนารูโตะมีไม่มากที่จะนำทางไปสู่สิ่งที่สมควรได้ หากบทเรียนที่เกิดขึ้นกับซาสึเกะทำให้เราเข้าใจในที่มาของตัวแทนความแค้นที่เกิดขึ้น การลองพิจารณาให้กว้างมองถึงสิ่งเป็นไปได้ในหลาย ๆ ทาง มันจะมีสักหนทางที่พร้อมจะแก้ปัญหาในได้ โดยไม่ถูกแง่คิดที่รุนแรงจากความเคียดแค้นนำพาไปทางที่ผิดได้

และยิ่งเข้าใจในมุมมองความจริงได้มากเท่าไหร่ มันอาจเป็นทางแก้ที่ดีที่เกิดขึ้นได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ซาสึเกะยังคงได้รับการให้อภัยแม้ว่าตลอดเรื่องราวจะผิดพลาดไปบ้าง แต่ทุก ๆ การกระทำที่ผิด เขาได้เลือกจะออกไปเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และเข้าใจสัจธรรมให้มากขึ้น และกลายมาเป็นคู่หูของพระเอกอีกครั้งในอนาคต

ในวันนี้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งที่นำพาตัวละครหลักที่ถูกนำเสนอในด้านที่คนส่วนหนึ่งอาจไม่ได้ตั้งคำถามในเรื่องนี้ และก่อเกิดปัญหาที่ตามมาขึ้น ในสักวันหนึ่งหากถึงเวลาที่เหมาะสม ผู้ที่เป็นแสงที่นำพาให้ซาสึเกะหลุดพ้นจากด้านมืด อย่าง นารูโตะ หากถึงวันสำคัญของเขาคงเป็นเรื่องที่ดีมากที่ตัวเอกจะถูกนำเสนอในอีกด้าน เหมือนที่เราได้เรียนรู้และเข้าใจผ่านปมปัญหาของตัวละครที่ไร้เดียงสาอย่าง ‘ซาสึเกะ’ ในวันนี้

อ้างอิง