Textrovert นักเลงคีย์บอร์ด

คุณมีเพื่อนที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต เขาเป็นคนอัธยาศัยดี มีอารมณ์ขัน ขี้เล่น และชอบปล่อยมุกฮา ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศไม่ให้ตึงเครียด ในกลุ่มเพื่อนสนทนาออนไลน์ เขาเปรียบเสมือนหัวโจกขาประจำที่ใครต่างก็รู้ว่าทุกครั้งที่ทักไปเขาจะรีบพิมพ์ยาว ๆ กลับมาเสมอ เหมือนกับว่าเขารอที่จะพูดคุยกับทุกคนอยู่ ทว่าเมื่อมีโอกาสได้นัดเจอกันแบบตัวเป็น ๆ เขากลับมีท่าทีที่เคอะเขิน สุขุม และพูดน้อย ต่างจากตัวตนในโลกออนไลน์โดยสิ้นเชิง บางครั้งรับรู้ได้ถึงความสนุกขำขันจากรีแอ็กชันบาง ๆ ที่ส่งผ่านรอยยิ้มตอนคุยเรื่องที่ชอบเท่านั้น

ในยุคที่โลกอินเทอร์เน็ตมีบทบาทเหนือชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง การพิมพ์คือวิธีการสื่อสารอย่างง่ายที่ตรงไปตรงมาที่สุด จึงไม่แปลกหากสักช่วงหนึ่งของชีวิตคุณจะรู้จักคนประเภทที่ “พิมพ์เก่งมากกว่าพูด” อยู่สักสองถึงสามคน ซึ่งคนจำพวกนี้ก็มีทั้งดีและร้ายไม่ต่างจากทั่วไป บางคนพิมพ์เอาสนุก บางคนพิมพ์เอาฮา บางคนพิมพ์เรียกแสงเรียกดราม่า แต่สิ่งหนึ่งที่คนเหล่านี้มักมีลักษณะคล้ายกันคือ เมื่อพวกเขาต้องต่อบทสนทนาแบบซึ่งหน้า สกิลการสื่อสารของพวกเขาจะลดลงเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้แปลว่าพวกเขาหยิ่งหรือนิสัยแย่ แค่ไม่กล้าสื่อสารแบบตรง ๆ มากกว่า

ในต่างประเทศนิยมเรียกคนลักษณะนี้ว่า “Textrovert” ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่างคำว่า ‘Text’ ที่แปลว่า ‘ข้อความ’ และคำว่า ‘Trovert’  ที่เป็นลักษณะนิสัยแบบ Extrovert และ Introvert โดยเว็บไซต์ Urban Dictionary ให้ความหมายของคำนี้ไว้ว่า Textrovert เป็นคนที่กล้าสนทนาผ่านทางข้อความมากกว่าการต่อบทสนทนาผ่านทางคำพูดแบบเห็นหน้าค่าตา และมักที่จะบอกเรื่องสำคัญหรือความรู้สึกจริง ๆ ผ่านทางการส่งข้อความเท่านั้น เนื่องจากรู้สึกสบายใจมากกว่าเมื่อได้พูดคุยผ่านข้อความ

แล้ว Textrovert ถือเป็นคนประเภท Extrovert หรือ Introvert กันแน่? 

ลักษณะนิสัยของ Textrovert นั้นมีความสลับซับซ้อนมากกว่าจะตีตราว่าเป็นพวกชอบเข้าสังคมหรือหลีกหนีจากสังคม เนื่องจากพวกเขามักใช้เวลาไปกับการเข้าสังคมแบบออนไลน์ (ซึ่งถือเป็นการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างหนึ่ง) แต่ขณะเดียวกันก็มีความบกพร่องด้านการสื่อสารแบบซึ่งหน้าในชีวิตจริง แต่ถ้าให้วัดกันหมัดต่อหมัด คนที่มีนิสัยแบบ Textrovert มีแนวโน้มที่จะเป็น Introvert มากกว่า

เนื่องจากลักษณะนิสัยของ Introvert ส่วนใหญ่มักเป็นคนที่ชอบใช้เวลาคิดและไตร่ตรองก่อนแสดงออกเสมอ ประกอบกับความสบายใจเมื่อไม่ต้องแบกรับความกดดันทางสังคมเมื่อต้องสื่อสารแบบเผชิญหน้ากับคนอื่น ทำให้คนที่ชอบเก็บตัวแบบ Introvert มีแนวโน้มที่จะเป็น Textrovert มากกว่า เพราะมีเวลาคิดก่อนที่จะพิมพ์ และไม่ต้องวิตกกังวลกับการสนทนาต่อหน้าผู้คน จึงไม่แปลกที่พวกเขาเลือกที่จะผันตัวมาเป็นนักเลงคีย์บอร์ดมากกว่าเป็นนักพูดฝีปากกล้า 

สาเหตุของการเป็น Textrovert 

พฤติกรรมในปัจจุบันที่แสดงออกทางสังคมล้วนแล้วแต่มีปัจจัยที่คล้ายกันคลึงกัน ได้แก่ ปัจจัยด้านการเลี้ยงดูในวัยเด็ก ที่อาจเติบโตมาด้วยความขาดไร้ซึ่งความมั่นใจในการพูด หรือถูกตำหนิจากผู้ปกครองเกี่ยวกับการสื่อสารกับผู้อื่นอยู่บ่อยครั้ง, ปัจจัยด้านประสบการณ์ที่ไม่ดีในอดีต ที่อาจเคยเจอประสบการณ์แย่ ๆ เมื่อต้องพูดคุยหรือสื่อสารกับบุคคลอื่น และปัจจัยด้านความถนัดทางภาษา ที่อาจเป็นคนที่เรียบเรียงภาษาพูดไม่ดีเท่าภาษาเขียน ทำให้รู้สึกมั่นใจในการสื่อสารผ่านทางตัวอักษรมากกว่า 

ไม่ว่าจะพิมพ์เก่งหรือคุยเก่ง ขอแค่สื่อสารอย่างสร้างสรรค์ก็เพียงพอแล้ว โดยเฉพาะในยุคที่คลาคล่ำไปด้วย Toxic Conversation และ Negative Words ที่ถูกส่งต่อกันทั้งในรูปแบบออนไลน์และในชีวิตจริง เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่า คำพูดเพียงคำเดียวหรือประโยคสั้น ๆ ที่พูดออกไป สามารถบั่นทอนหรือทุบทำลายใครได้บ้าง

อย่าปล่อยให้ “Weak Massages Create Bad Situations” ก็เพียงพอแล้ว

AUTHOR

ไม่ชอบคนข้างล่าง