Workations เที่ยวไปทำงานไป

ความจริงแล้ว “การทำงาน” และ “วันหยุด” เป็นสิ่งที่ไม่ควรเข้าคู่หรือมาบรรจบกันเลย มันเหมือนกับมีคนบอกว่า การกินไอติมรสวานิลลาเข้ากันได้ดีกับรสชาติของมะระขี้นกนะ พูดง่าย ๆ คือ การทำงานในวันหยุด หรือการหยุดในวันทำงานเป็นเรื่องที่ดูผิดตรรกะไปหมด แต่ต้องยอมรับว่าในยุคนี้ที่ใครต่างก็วุ่นและหัวหมุนอยู่กับการทำงาน พร้อมมอบชีวิตถวายดวงใจให้กับงานลูกค้า การทำงานมันจึงเริ่มลุกลามเข้ามาในวันหยุดโดยที่เราไม่รู้ตัว จนสุดท้ายแล้วการทำงานในวันหยุดจึงกลายเป็น “เรื่องปกติ” สำหรับบางคนไปเสียแล้ว 

ถึงอย่างนั้นร่างกายของมนุษย์ก็ยังคงประกอบสร้างมาจากเลือดเนื้อและกระดูก เรายังคงเรียกร้องเวลาพักผ่อนและการถูกเยียวยาจิตใจ ด้วยอาหารดี ๆ สักจาน ซีรีส์ดี ๆ สักเรื่อง หนังสือดี ๆ สักเล่ม หรือการได้ออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ แต่แน่นอนว่าเราคงทำแบบที่กล่าวมาไม่ได้ หากภาระงานยังคงหนักอึ้งอยู่แบบนี้ ดังนั้นเทรนด์การใช้ชีวิตแบบ “เที่ยวไปทำงานไป” จึงได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงนี้ 

Workcations หรือ เที่ยวไปทำงานไป เป็นวิธีการใช้ชีวิตแบบผสมผสานระหว่างการทำงานและการพักผ่อน เช่น แบกคอมพิวเตอร์ไปทำงานที่คาเฟ่ รีสอร์ต หรือที่พักตากอากาศ โดยเทรนด์การแบกงานไปเที่ยวด้วยนี้เริ่มเป็นที่นิยมหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อช่วง 2-3 ปีก่อน จากระบบการทำงานที่เปลี่ยนให้บางบริษัทหันมา Work From Home หรือทำงานจากทางบ้าน ซึ่งในตอนนี้หลายคนนำวิธีนี้มาประยุกต์ใช้ให้เป็น Work From Anywhere หรือทำงานที่ไหนก็ได้แทน 

รายงานจากเว็บไซต์ที่พัก OYO ในปี 2021 ระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวอินเดียมากถึง 85% นิยมทำงานในวันหยุด ซึ่งสอดคล้องกับรายงานสถิติคนทำงานในประเทศออสเตรเลียในปี 2023 ที่ระบุว่า ผู้คนกว่า 70% ยังคงทำงานออนไลน์ขณะไปพักผ่อนในวันหยุด โดยหนึ่งในสี่ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า พวกเขาเลือกทำงานในวันหยุดไปด้วยเพื่อควบคุมปริมาณของงาน เนื่องจากเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตสามารถอำนวยความสะดวกในการทำงานแบบออนไลน์ ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงทำงานต่อไป แม้ว่าจะไปเที่ยว ลาพักร้อน หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์

ถึงแม้จะฟังดูเหมือน “ลงตัว” เพราะได้ทั้งทำงานไปด้วยและพักผ่อนไปด้วย แต่จากผลสำรวจของ Movchan Agency เผยว่า คนทำงานกว่า 26% จำเป็นต้องทำงานในวันหยุดเพราะเจ้านายเรียกร้อง ขณะที่อีก 29% เลือกทำเพราะกลัวจะเสียงาน เนื่องจากคนประมาณ 63% รู้สึกไม่สบายใจหากไม่ตรวจสอบหรือคิดเรื่องงานในวันหยุด ซึ่งการทำงานจนเกินลิมิตและไม่มีเวลาพักที่ชัดเจน ทำให้เสี่ยงต่อการเข้าสู่ “ภาวะหมดไฟ” และอาจนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับการทำงานในส่วนอื่น ๆ 

อย่างไรก็ตาม เราต้องหาจุดบาลานซ์ที่สามารถช่วยให้เราดำเนินชีวิตไปได้โดยไม่กระทบทั้งการงานและการใช้ชีวิต เพราะถึงแม้การทำงานจะสำคัญในพาร์ตของเงินทอง แต่การพักผ่อนก็สำคัญในแง่ของคุณภาพชีวิตและจิตใจ ดังนั้นพยายามหาตรงกลางของตนเอง เพื่อที่จะสามารถดำรงอยู่ในสังคมที่วุ่นวายได้

ที่มา

AUTHOR

ไม่ชอบคนข้างล่าง