Vibe Coding LLM

ช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ถึงเราจะไม่ได้อยู่ในวงการคอมพิวเตอร์ แต่คำว่า Vibe Coding ก็น่าจะมีผ่าน Feed ในโซเชียลมีเดียของหลาย ๆ คนไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะมาในรูปแบบของมีมหรือโพสต์ต่าง ๆ ที่แสดงความเห็นต่อมัน วันนี้ SUM UP จะมาเล่าให้ฟังกันว่า Vibe Coding คืออะไร และ ทำไม Programmer ถึงเกลียดมันได้ขนาดนั้น

Vibe Coding คืออะไร ?

Vibe Coding เป็นคำที่คุณ Andrej Karpathy ซึ่งเป็นอดีตวิศวกรของ OpenAI เป็นคนเริ่ม เขาให้นิยามมันว่า “Where you fully give in to the vibe, embrace exponentials and forget that the code even exists” พูดง่าย ๆ คือ มีกลุ่มคนที่เห็นว่า AI โดยเฉพาะพวก LLM อย่าง ChatGPT สามารถ Generate Code ออกมาได้ เป็นเครื่องมือที่เข้ามาช่วยเราได้เยอะเลย เพราะคนทั่วไปเขียน Code ไม่เป็นเลยแม้แต่น้อย เราก็ทำตัวเป็น Project Manager โยน Requirement ของโปรแกรมให้ ChatGPT เขียนออกมาเลยสิ

ถามว่าทำแบบนั้นแล้วเราจะได้โปรแกรมที่ตรงกับความต้องการออกมาไหม จากที่เห็นผลงานมากมายบนอินเทอร์เน็ตในช่วงที่มันบูมมาก ๆ ก็ต้องบอกเลยว่า มัน รัน ได้ จริง ไม่จ้อจี้ ออกมาเป็นเกมและแอปต่าง ๆ มากมายเต็มไปหมด เช่น Pieter Levels ที่ Vibe Code สั่ง AI จนได้ Flight Simulator หน้าตาบ้าน ๆ ออกมาโดยใช้ Javascript เท่านั้น ความพีคยิ่งกว่านั้นคือ พอเกมคนเล่นเยอะ ก็เอาเลย ขายโฆษณา แล้วได้เงินกลับมาเป็นกอบเป็นกำ มันเป็นเรื่องราวที่พิสูจน์ได้ว่า Vibe Coding มันสร้างโอกาสทางธุรกิจได้จริง ทำเงินได้จริง

ทำไม Programmer ถึงด่า Vibe Coding ?

การ Vibe Coding โดยใช้ AI มันทำให้เราได้แอปหรือโค้ดบางส่วนที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วมากกว่าเราเขียนเองซะอีก แต่ต้องบอกตรง ๆ ว่า การที่มัน Generate Code ออกมาและอาจจะทำงานได้ตามที่เราเขียนบอกให้ทำ ไม่ได้แปลว่ามัน Generate ของที่ดี สามารถนำมาใช้งาน ขึ้นใช้งานเปิดเป็นบริการได้จริง ๆ

ตัวอย่างหนึ่งของ Vibe Coder ที่ให้ LLM เขียน Code ออกมาแล้วเกิดความฉิบหายก็น่าจะหนีไม่พ้นผู้ใช้ X ชื่อว่า @leojr94 ที่ก่อนหน้านั้นเขาโพสต์ข้อความบน X ระบุว่า เขาสร้างแอปของตัวเองด้วย Cursor โดยที่ไม่ได้เขียน Code เองสักบรรทัดเดียวเลย AI เนี่ยไม่ได้เป็นแค่ผู้ช่วยแล้ว แต่เป็นผู้สร้างได้เลย ตอนนี้คุณจะโวยวายหรือจะเริ่มสร้างตอนนี้ละ และใช่ คนจ่ายเพื่อใช้บริการผม เรียกได้ว่าโพสต์นั้นเป็นการสร้างกระแส “ความหัวจะปวด” ของโปรแกรมเมอร์ทั่วโลกได้เลย

และไม่กี่วันต่อมา สิ่งที่โปรแกรมเมอร์ทุกคนเตือนได้เกิดขึ้นจริง @leojr94 ออกมาโพสต์ข้อความบน X อีกครั้งด้วยการจั่วหัวว่า “guys, I’m under attack” หรือก็คือ เขาโดนโจมตีเข้าแล้ว เรื่องของเรื่องคือเขาเจอว่ามีคนเข้ามาสร้างอะไรไม่รู้มั่วซั่วบนฐานข้อมูลของระบบ และยังมีการพยายามลักลอบที่จะใช้บริการฟรีโดยไม่จ่ายเงินได้อีก จนตอนนี้ EnrichLead หรือก็คือแอปเจ้าปัญหานี้ไม่ได้เปิดให้บริการอีกต่อไป เกิดขึ้นและดับไปอย่างรวดเร็วทันทีสุด ๆ

นี่คือตัวอย่างของ Vibe Coder ที่เล่นใหญ่สร้างแอปออกมาให้บริการจริงโดยที่เขียน Code ไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าสิ่งที่ LLM มัน Generate ออกมาแต่ละส่วนทำอะไร และมุ่งไปสู่หายนะอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ คือ LLM มันทำตามที่ผู้สร้างได้เขียน Prompt บอกมันให้ทำ เช่น เราเขียน Prompt บอกให้สร้าง Code สำหรับเว็บที่มีปุ่ม กดแล้วบวกเลขได้ มันก็อาจจะสร้างหน้าเว็บที่ทำแบบนั้นได้จริง ๆ แต่ปัญหาคือ มันคิดตรง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ผู้สั่งต้องการ ไม่ได้คิดถึงปัจจัยอื่น ๆ หลาย ๆ ครั้งมันกลับเลือกใช้วิธีการที่ภาษาโปรแกรมเมอร์เรียกว่า Overengineer หรือง่าย ๆ คือ ใช้วิธีการที่มันซับซ้อนเกินความจำเป็นไป Code ออกมาเป็นหน้าตาอะไรไม่รู้แปลก ๆ แต่ทำงานได้เฉยเลย

แต่ Code ที่โปรแกรมเมอร์เขียนกันจริง ๆ ไม่ได้ทำให้แค่ใช้งานได้ อันนั้นพูดกันตรง ๆ ว่า ถ้าทำแค่นั้น ลิงก็เขียนได้ เครื่องก็เขียนได้ ไม่ต้องใช้โปรแกรมเมอร์หรอก แต่โปรแกรมเมอร์จริง ๆ คิดลงลึกกว่านั้นเยอะมาก ต้องมีการออกแบบ Code โดยคำนึงถึงหลาย ๆ เรื่อง เช่น เขียนมาแล้วต้องดูแลต่อได้ง่าย เข้าใจง่าย และทำงานได้รวดเร็ว เป็นต้น ไม่ใช่สักแต่เขียนอะไรไม่รู้ออกมา

AI ยังเป็นแค่ผู้ช่วยที่แสนดีของเรา

จากที่เล่ามานี้ อาจจะมองว่า อ้าว โปรแกรมเมอร์กลัวการที่ AI เข้ามาทำให้เราตกงานหรือไม่ คำตอบ คือ ไม่เลย มองกลับกัน เผลอ ๆ เราจะได้งานเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ เรื่องที่ตลกร้ายคือ มีบริษัทที่เชื่ออย่างสุดหัวใจว่า LLM สามารถ Generate Code ได้จริง ๆ ไม่ต้องมีทีมโปรแกรมเมอร์ก็ได้ สุดท้ายปรากฏว่า “แตกยับ” ใช้งานไม่ได้ ต้องมาจ้างโปรแกรมเมอร์ข้างนอกแก้โค้ด สุดท้ายแก้ไม่รอด เพราะโค้ดที่ LLM ได้ Generate ออกมามัน Overengineer จนคนยัง งง ต้องจ้างเขียนใหม่ทั้งหมด นี่คือตัวอย่างโอกาสที่ทำให้โปรแกรมเมอร์ไม่ตกงานแน่ ๆ แบบตลกร้ายไม่เกินจริง

แต่ถามว่าโปรแกรมเมอร์ต่อต้านการใช้งาน AI Code Generator เหรอ คำตอบก็คือ ไม่ใช่ จริง ๆ หลาย ๆ คนสนับสนุน และหลาย ๆ องค์กรสนับสนุนด้วยการจ่ายเงินให้ใช้กันเลยด้วยซ้ำ แต่สนับสนุนให้มันเข้ามาเป็น “ผู้ช่วย” ในการทำงานของเรามากกว่า คิดว่าคลิปที่พี่โดมจาก DomeCloud พูดในช่อง Beartai น่าจะพูดแทนใจเหล่าโปรแกรมเมอร์ได้อย่างดีว่า มันเป็นผู้ช่วยที่ทำให้เรา ทำงานได้เร็วขึ้น สื่อสารได้ง่ายขึ้น เช่น เราเขียนหลังบ้านเป็นหลักไม่ได้เชี่ยวชาญการเขียนหน้าเว็บ แต่เราอยากได้หน้าเว็บ เราก็แค่ใช้ AI Generate Code เว็บที่ต้องการออกมาเป็น Prototype ที่กดได้จริง ไปให้คนที่เขาทำเว็บดูเพื่อจะได้เห็นภาพตรงกันได้ชัดเจนขึ้น เร็วขึ้น

สุดท้ายคือ เราคงปฏิเสธการมาถึงของ AI ไม่ได้หรอก เพราะมันนั่งจ้องหน้าคุณอยู่ทุกวัน แล้ว Vibe Coding ก็เช่นกัน คนเห็นโอกาสมากมายจากเครื่องมือนี้และพยายามใช้มันเพื่อสร้างโอกาส สร้างสรรค์แอปหลาย ๆ ตัวที่น่าสนใจออกมาเยอะมาก ๆ แต่มันไม่ใช่เครื่องมือที่จะมาทดแทนแรงที่หลาย ๆ คนใช้ฝึกการเขียนโปรแกรมเลย เป็นแค่เครื่องมือที่ “เร่ง” ทำให้เราเรียนรู้และสร้างสรรค์ได้เร็วขึ้นมากกว่า ดังนั้นอยากจะบอกว่าการใช้ AI ไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่เราควรมีความรับผิดชอบ มีสติ และรู้เท่าทันกับการใช้ AI กันนะ ~

AUTHOR

I believe in technology and sharing, as they enable us with a better world via several clicks. Especially, programming is one of the most powerful tools which inspire people to make their dreams come true. I want to share, publicise and innovate new technology so as to change our world in the way we could hardly imagine.