ยูวัล โนอา ฮารารี (Yuval Noah Harari) เกิดและเติบโตที่เมืองคายัตอาตา (Kiryat Atan) ประเทศอิสราเอล ในครอบครัวชาวยิวที่เคร่งศาสนา ฮารารีอ่านหนังสือได้ด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 3 ขวบ นั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่เก่งมาตั้งแต่เด็ก และด้วยพรสวรรค์ด้านการเรียนรู้นี้เองทำให้ฮารารีสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ Hebrew University of Jerusalem ในวัยเพียง 17 ปี
ต่อมาฮารารีศึกษาต่อในระดับปริญญาโทเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุคกลางและประวัติศาสตร์ทางการทหาร ซึ่งนี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขารู้ว่าความหิวกระหายทางอำนาจของมนุษย์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันไม่เคยหายไปไหน หลังจากสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท ฮารารีได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกที่ Jesus College, Oxford ประเทศอังกฤษ ด้านประวัติศาสตร์โดยเฉพาะ ซึ่งในขณะนั้นเขาได้มีโอกาสพบงานเขียนของ Jared Diamond นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันและนักเขียน เจ้าของผลงานขึ้นหิ้งอย่าง Gun Germ & Steel เกี่ยวกับชีววิทยาวิวัฒนาการของมนุษย์ ซึ่งฮารารียอมรับว่าผลงานของจาเร็ดมีอิทธิพลต่องานเขียนของเขามาก กระทั่งฮารารีเคยกล่าวว่าผลงานของจาเร็ดเปรียบเสมือนสิ่งศักสิทธิ์ในอาชีพของเขา
หลังจากนั้นฮารารีเริ่มเขียนหนังสือและบทความหลายชิ้น ก่อนที่ผลงานระดับโลกของเขาอย่าง ‘Sapiens: A Brief History of Humankind’ จะถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ในปี 2011 ซึ่งสร้างเสียงฮือฮาและความเปลี่ยนแปลงทางด้านทัศนะเกี่ยวกับชีวิต ประวัติศาสตร์ และความเป็นอยู่ของมนุษยชาติ โดยหนังสือของเขาถูกแปลมากกว่า 65 ภาษา และขายได้มากกว่า 45 ล้านเล่มทั่วโลก ก่อนตีพิมพ์หนังสือในซีรีส์เดียวกันอีก 3 เล่ม ได้แก่ Homo Deus: A Brief History of Tomorrow, 21 Lessons for the 21st Century และ Sapiens: A Graphic History and Unstoppable ซึ่งทุกเล่มบอกเล่าเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และความเป็นไปในอนาคตของมนุษยชาติ
ก่อนหน้านี้ฮารารีสนใจด้านประวัติศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์ยุคกลาง และประวัติศาสตร์การทหาร ทว่างานวิจัยในปัจจุบันของเขามุ่งเน้นไปที่การตั้งคำถามเชิงประวัติศาสตร์มหภาค เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างประวัติศาสตร์และชีววิทยา ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสปีชีส์โฮโมเซเปียนส์และสัตว์อื่น ๆ มีความยุติธรรมทางประวัติศาสตร์หรือไม่ แม้กระทั่งการตั้งคำถามเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับจริยธรรมในศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ฮารารียังได้บรรยายให้กับมหาวิทยาลัยหลายที่ และขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับอนาคตของมนุษยชาติอีกหลายแห่ง ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาของฮารารี เขาได้อุทิศชีวิตเพื่อประวัติศาสตร์และการรับรู้ของมนุษยชาติ
ทว่านอกจากช่วงชีวิตที่อุทิศให้กับการทำงาน อีกพาร์ทหนึ่งฮารารีก็มอบความสำคัญให้กับ Itzik Yahav คนรัก สามี และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท “Sapienship” ในปี 2019 ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อผลักดันเกี่ยวกับสิ่งที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน และกระตุ้นเตือนให้เล็งเห็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาของโลก
ฮารารีพบกับสามีของเขาครั้งแรกในปี 2001 ผ่านแอปพลิเคชัน ‘Check Me Out’ ซึ่งถือเป็นแอปพลิเคชันหาคู่สำหรับเกย์แอปพลิเคชันแรกของอิสราเอล เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านั้นมีการต่อต้านเรื่องรักร่วมเพศเป็นอย่างมาก แต่ทั้งคู่ก็สามารถก้าวผ่านวันวานที่แสนยากลำบากนั้นมาได้ และแต่งงานกันในปี 2002 ที่โตรอนโต ประเทศแคนาดา
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจของฮารารีคือ ถึงแม้เขาจะไม่มีศาสนาและไม่เชื่อในพระเจ้า แต่เขามักจะนั่งสมาธิเป็นเวลา 60 วันต่อปี โดยฮารารีกล่าวว่าหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เขาได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นผ่านการนั่งสมาธิ ซึ่งปราศจากการติดต่อกับผู้คน สังคมและสื่อโซเชียลมีเดีย เพราะเขาเชื่อว่าความเงียบคือความสงบ และการนั่งสมาธิช่วยเปลี่ยนวิธีคิดและวิถีชีวิตของเขา ฮารารีมักจะนั่งสมาธิเป็นเวลา 2 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้จิตใจรู้สึกสงบ และมีเวลาขบคิดเรื่องราวใหม่ ๆ เกี่ยวกับโลกและความเป็นไปของมนุษยชาติ
อย่างไรก็ตามวิถีชีวิตและวิธีคิดของเหล่านักเขียนผู้บุกเบิกองค์ความรู้มักจะแฝงไปด้วยนัยยะอะไรบางอย่าง การไม่เชื่อในพระเจ้าของฮารารีไม่ได้ทำให้เขาปฏิเสธการอยู่กับตัวเองในรูปแบบพฤติกรรมที่เชื่อมโยงกับศาสนาอย่างการนั่งสมาธิ และความเป็นอิสระทางความคิดทำให้เขาไม่ปิดกั้นในเพศวิถีของตนเอง รวมถึงมีความสามารถในการบุกเบิก ตั้งคำถาม และนำเสนอแง่มุมใหม่ ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างเช่น โลกและมนุษย์
อ้างอิง
- https://www.ynharari.com/about/
- https://www.cbsnews.com/news/60-minutes-yuval-noah-harari-2021-10-31/
AUTHOR
ไม่ชอบคนข้างล่าง